นัดต่อไปแมนยูเปิดบ้าน พบ สเปอร์ ในพรีเมียร์ลีก 30 ต.ค. 2553 23.30

นัดต่อไปแมนยูเปิดบ้าน พบ สเปอร์ ในพรีเมียร์ลีก เสาร์ที่ 30 ต.ค. 2553 23.30

น่าเป็นห่วงเสมอครับสำหรับแมนยูในช่วงเวลานี้เพราะว่าฟอร์มการเล่นไม่ดีและแผ่วลงเรื่อยๆ ดูแล้วต้องบอกว่าน่าเบื่อ กลางไม่สร้างสรรค์ ไม่มีเพลเมคเกอร์ ไม่มีคนสร้างเกมส์ ถ้าเป็นอย่างนี้ผมว่าแมนยูอาจจะไม่ได้อะไรติดมือในฤดูกาลนี้ก็เป็นได้ครับ

ถ้าเราสังเกตแมนยูในช่วงเวลาที่ผ่านมาให้ดีดีเราจะเห็นว่าจุดอ่อนของเเมนยูตอนนี้อยู่ที่แนวรุกแล้วครับ ปัญหาใหญ่ผมเห็นๆและเห็นมานานแล้วคือกองกลางไม่มีใครกล้าเล่นหรือว่าห้าวพอ ที่จะเลี้ยงลุยแนวรับเพื่อกดดันได้เลย มีเเต่เคาะไปเคาะมาหน้าเขตโทษแล้วก็ส่งออกริมเส้นแล้วก็โยนเข้ามา โดนตัด โดนแย่ง มันเป็นอยู่อย่างนี้ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้กดดันแนวรับคู่ต่อสู้มากพอ และยังเป็นโอกาสให้โดนสวนกลับได้อีก

หลายเกมส์ติดต่อแล้วครับที่เราเห็นชัดๆเลยว่ากลางแมนยูตอนนี้ห่วยแค่ไหน ความห่วยทางแบคขวาก็ยังอยู่ตอนนี้น่าเป็นห่วงครับ ป๋าซื้อกลางเพล์เมคเกอร์ห้าวๆสักคนเถอะขอร้อง

ชาบูถั่วเมพ!โขกพิศดาร-ยิงชัยช่วยผีซิวหืด 2-1

ชาบูถั่วเมพ!โขกพิศดาร-ยิงชัยช่วยผีซิวหืด 2-1

แจ้งเกิดแบบเต็มตัวในฐานะฮีโร่ของทีมเลยสำหรับฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซที่เหมาคนเดียวสองประตู จากลูกโหม่งสะบัดด้วยหลังหัวแบบพิศดาร และลูกแปเผาขนท้ายเกม ช่วยให้แมนฯยูไนเต็ดรอดตัวหยุดสถิติเสมอรวดนอกบ้าน เอาชนะสโต๊คไปได้ 2-1

พรีเมียร์ ลีก

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2553


สโต๊ค ซิตี้ 1 : 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู : 
0-1 ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ น.27,1-1 ตุนชาย ซาลี่ น.82,1-2 ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ น.86

"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยกพลออกไปเยือนบริทาเนียร์ สเตเดี๊ยมรังของสโต๊ค ซิตี้พร้อมพกเอาสถิติการออกไปเป็นทีมเยือนที่ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยในฤดูกาลนี้ เสมอรวด 4 เกมด้วยกัน

ในเกมนี้แมนฯยูไนเต็ดยังคงไม่มีเวย์น รูนี่ย์ที่กลับลำหันมาจูบปากกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันแล้ว คู่หน้าจึงเป็นดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ

เกมนี้เซอร์ อเล็กซ์ปรับให้ปาทริซ เอฟร่าขึ้นมาเล่นปีกซ้าย และขยับจอห์น โอเชียไปเล่นแบ็คซ้ายแทน ในขณะที่ทางขวาเป็นแกรี่ เนวิลล์

เจ้าบ้านสโต๊ควันนี้จัดทัพแบบไม่เกรงกลัวทางแมนฯยูไนเต็ดเลย เพราะมาด้วยทีมชุดเกมรุกมีหน้าคู่เป็นเควิน โจนส์ และโจนาธาน วอลเตอร์สคอยรอสังหารลูกเปิด ลูกบอมบ์ของเพื่อนร่วมทีมในแดนหน้า

ครึ่งแรก

ผีสวนไม่ประสบผล
เริ่มเกมมาได้ 8 นาที แมนฯยูไนเต็ดมีโอกาสได้ทำเกมสวนกลับแบบ 3 ต่อ 2 คน โดยดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟลากขึ้นไปตรงกลางก่อนป้ายให้กับนานี่ทางฝั่งขวา แต่เหมือนปีกอาบังจะเน้นไปหน่อย โยนบอลโด่งให้กับฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซที่สูงเหลือเกิน พยายามโหม่งชงคือกลับให้เบอร์บาตอฟตรงกลาง แต่ไม่ตรง ทำให้พลาดโอกาสไป

จังหวะนี้หัวหอกศิลปืนถึงกับออกอาการหงุดหงิดเพื่อนร่วมทีมเลยทีเดียว

เกมแลกกันสนุก
ผ่าน 15 นาทีแรกไป เกมคู่นี้ถือว่าสนุกได้ลุ้นกันอยู่ตลอด เพราะต่างฝ่ายต่างก็มาเล่นเกมรุกด้วยกันทั้งสองทีม แมนฯยูไนเต็ดจะเน้นการประสานกันระหว่างเบอร์บาตอฟ, เฮอร์นานเดซ และนานี่ ในขณะที่สโต๊คจะเน้นเกมริมเส้น และโยนบอลไปลุ้นในกรอบเขตโทษได้เสียวอยู่เนืองๆ

ผีเกือบแย่
นาทีที่ 21 แมนฯยูไนเต็ดป้อแป้หนัก หลังจากทางเจ้าถิ่นโยนบอมบ์เข้าไปกดดดันในกรอบเขตโทษไม่ขาดสายต้องไล่สกัดกันอุตลุต ยังดีที่จังหวะบอลถือว่าไม่ได้เป็นใจให้กับสโต๊คมาก ไม่งั้นอาจมีหายได้ทุกเมื่อ

ถั่วน้อยหันหลังโหม่งเข้าเฉย!!
นาทีที่ 27 สโต๊ค ซิตี้ที่ถนัดการเล่นลูกตั้งเตะ ลูกกลางอากาศถึงกับงงตาแตก หลังจากฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซโชว์ลูกโหม่งพิสดาร จากจังหวะที่นานี่โยนบอลยาวไปเสาสองแล้วเนมันย่า วิดิชโหม่งชงกลับเข้าไปตรงกลาง แม้ว่าเฮอร์นานเดซจะยืนหันหลังอยู่ แต่ก็ยังเทคตัวเอาหลังศรีษะสะบัดโหม่งบอลเสยคานเข้าไปสุดตะลึง แมนฯยูไนเต็ดชิงออกนำไปก่อนแล้ว 1-0

เกมเป็นทรงๆ
เข้าสู่ช่วงนาทีที่ 35 ของเกม หลังจากได้ประตูขึ้นนำไปแล้วเกมของแมนฯยูไนเต็ดเองก็ถือว่าไม่ได้ลุ้นประตูเพิ่มแต่อย่างใด เพราะเกมส่วนใหญ่มักจะเสียกันในจังหวัสุดท้าย รวมทั้งทางสโต๊คด้วยเช่นเดียวกัน

ถั่วน้อยเกือบพิศดารอีก
นาทีที่ 41 ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซมีโอกาสทำประตูพิศดารเพิ่มอีก จากจังหวะที่อับดุลลาย ฟายส่งคืนหลังให้กับโธมัส โซเรนเซ่นเบาไปหน่อย ทำให้จังหวะเตะบอลเคลียร์ออกมาไปโดนตัวเฮอร์นานเดซ แต่ยังดีที่ปลิ้นข้ามคานออกไป

เฮียเนฟรอดตัว
อีกหนึ่งนาทีต่อมา แฟนแมนฯยูไนเต็ดเป่าปากโล่งกันยกใหญ่ จากจังหวะที่แกรี่ เนวิลล์ซึ่งมีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้ว ไปเสียบใส่แมทธิว เอ็ทเธอริงตัน แต่ผู้ตัดสินยังปราณี ถึงจะอย่างนั้นถ้ามีครั้งหน้ารับรองว่าแดงชัวร์

ผีเสียวส่งท้ายครึ่งแรก
ช่วงทดเวลานาทีสุดท้ายพอล สโคลส์ฉวยโอกาสเล่นฟรีคิกเร็วตักบอลไปให้กับปาทริซ เอฟร่าในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่แบ็คเลือดเฟร้นช์จะไหลเข้ากลางหมายให้ฮาเวียร์เฮอร์นานเดซได้เข้าชาร์จ แต่ถูกกองหลังบีบเข้ามาสกัดได้ก่อน ไม่งั้นได้เสียวแน่

ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนำสโต๊ค ซิตี้อยู่ 1-0 แต่จากสถิติช่วงหลังของทางทีมเยือนแล้ว เจ้าบ้านยังมีโอกาสพลิกกลับมาได้ทุกเมื่อ

ครึ่งหลัง

ฮา!แกรี่ เนวิลล์แอบเขิล ป๋าไม่บอกว่าจะให้เปลี่ยนตัวแล้วปล่อยให้ไปยืนรอกลางสนามก่อนเริ่มเกมตั้งนาน แต่ในที่สุดก็ต้องออกจากสนาม และให้เวส บราวน์ลงไปเล่นแทน เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการโดนใบเหลืองที่สองเหลือเกิน

เจ้าบ้านรอดตัวไม่เสียจุดโทษ
นาทีที่ 55 ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ตัดสินล้วน ๆ ในจังหวะที่ปาทริซ เอฟร่าวิ่งเบียดไปกับรอรี่ ดีแล็ปแล้วถูกทางจอมทุ่มมือทองใช้แขนกระแทกจนล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินเฉยเพราะน่าจะมองว่าโธมัส โซเรนเซ่นเข้าถึงบอลได้เร็วกว่าแบ็คเลือดเฟร้นช์

หมามุ่ยเกือบสร้างงาน
อีก 5 นาทีต่อมา อยู่ดีไม่ว่าดีพอล สโคลส์ก็ทำพลาดไปเสียบอลให้กับทางวอลเตอร์จนโดนกระชากสวนขึ้นไปหน้ากรอบเขตโทษ ถือว่ายังโชคดีที่จังหวะจ่ายให้กับเควิน โจนส์นั้นไปติดขาของเนมันย่า วิดิชซะก่อน ทำให้จังหวะเสียไป

สมควร!จัยฉ่ายถูกถอดแล้ว
นาทีที่ 70 ในที่สุดฟ้าก็มีตา เมื่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจัดการเปลี่ยนเอาไมเคิ่ล คาร์ริคลงไปเล่นแทนจอห์น โอเชียที่วันนี้ท็อปฟอร์มทั้งเกมรับ(โดนเขาเจาะตลอด) และเกมรุก(จ่ายพลาดทั้งเกม)

โดยแมนฯยูไนเต็ดจะขยับปาทริซ เอฟร่าลงไปเล่นแบ็คซ้ายตำแหน่งที่ถนัดตามเดิม ส่วนแดนหน้าจะใช้ 3 ประสานเบอร์บาตอฟ, นานี่ และเฮอร์นานเดซ ส่วนคาร์ริคที่เพิ่งลงไปก็จะช่วยเกมแดนกลางที่เหมือนจะเก็บบอลกันไม่ค่อยอยู่ และไล่บอลลำบาก

ถั่ววอลเล่ย์หลุดกรอบ
นาทีที่ 72 แมนฯยูไนเต็ดพลาดโอกาสทำประตูที่สองไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟหลุดขึ้นไปทางกราบซ้าย ก่อนที่จะเหลือบมองไปเสาสองเห็นฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซเติมขึ้นมา จัดการโยนไปทันที เฮอร์นานเดซพุ่งเข้าไปลอยตัววอลเล่ย์จังหวะแรก แม้จะผ่านโซเรนเซ่นไปได้แล้ว แต่ก็หลุดเสาไกลออกไปนิดเดียวเท่านั้น

เจ้าถิ่นกดดันน่ากลัว
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แม้แมนฯยูไนเต็ดจะมีโอกาสทำประตูได้มากกว่า แต่จังหวะการโยนบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษของสโต๊คนั้นกดดันได้ทุกเมื่อ หากพลาดเมื่อไรแมนฯยูไนเต็ดมีหวังน้ำตาตกแน่

นั่นไง!ตุนชายซัดงามหยดย้อย
นาทีที่ 82 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพลาดอีกครั้ง(และอีกครั้ง) จากความผิดพลาดของพวกเขาเองในตอนแรกทั้งพอล สโคลส์ และปาทริซ เอฟร่า ทำให้ตุนชายมีโอกาสพาบอลล็อกจากกราบขวาเข้าในเขตโทษ แล้วบรรจงปั่นด้วยซ้าย บอลพอเหมาะพอดีทั้งน้ำหนัก และทิศทางเข้าไปเสียบสามเหลี่ยมเสาไกล สุดปัญาที่ฟาน เดอร์ ซาร์จะเซฟถึง สโต๊คตามตีเสมอจนได้

ถั่วน้อยพลิกสถานการณ์!!!
นาทีที่ 86 แมนฯยูไนเต็ดพลิกสถานการณ์ฟอร์มเดิมของตัวเองได้ทันใด จากประตูของฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซที่ยืนถูกที่ถูกเวลา ในจังหวะที่มิดิทาร์ เบอร์บาตอฟโยนบอลจากกราบขวาไปเสาสองสโคลส์โหม่งเสยไปยังปาทริซ เอฟร่าที่ยึกยักอยู่ก่อนที่จะกลับตัวจริง บอลไปแฉลบผู้เล่นของสโต๊คแล้วไปเข้าทางเฮอร์นานเดซที่ยืนอยู่กลางประตู ยิงดีดเข้าไปด้วยสัญชาตญาณไม่มีเหลือ "ปีศาจแดง" ขึ้นนำไปอีกครั้ง 2-1

ทดเจ็บ 4 นาที
เกมยังไม่จบง่ายๆ เมื่อเจ้าบ้านยังมีลุ้นช่วงท้ายเกม เพราะผู้ตัดสินที่ 4 ออกมาชูป้ายทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที ทำให้มีโอกาสลุ้นบอมบ์ช่วงท้ายเกมอยู่

บังเกือบได้บวกบ้าง
ช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย หลุยส์ นานี่มีโอกาสได้ส่องเน้นๆจากนอกกรอบเขตโทษจากลูกจ่ายของดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ แต่ยังไม่ผ่านมือของโซเรนเซ่นที่เซฟเอาไว้ได้ทัน

จบ 90 นาีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะสโต๊ค ซิตี้ไปได้แบบหืดขึ้นคอ 2-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

สโต๊ค ซิตี้ : 
โธมัส โซเรนเซ่น,อับดุลลาย ฟาย,ไรอัน ชวอครอสส์,แดนนี่ คอลลินส์,โรเบิร์ต ฮูธ,รอรี่ย์ ดีแล็ป,มาร์ค วิลสัน,แมทธิว เอ็ทเธอริงตัน,เจอร์เมน เพนแนนท์,เคนวิน โจนส์,โจนาธาน วอลเตอร์ส

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,เนมันย่า วิดิช,ริโอ เฟอร์ดินานด์,ปาทริซ เอฟร่า,แกรี่ เนวิลล์,พอล สโคลส์,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์,นานี่,จอห์น โอเชีย,ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 















 


แมนยู2-2เวสบรอม ฟานเดอซาทำแฟนบอลช็อก

เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนแน่นอนครับสำหรับลูกที่หลุดมือจากฟานเดอร์ซา ก่อนที่จะไปเข้าทางให้โดนยิงลูกที่สองแบบช็อกสายตาแฟนบอลหลังประตู


ไม่เชื่อครับ ผมไม่มีวันเชื่อถ้าหากไม่ได้เห็นกับตา ในนัดนี้ผมบอกเลยว่าถึงแมนยูจะเล่นไม่ดีเหมือนเดิมแต่ว่าก็ควรจะได้สามคะแนนครับ เพราะอย่างน้อยในครึ่งแรกก็เล่นกันได้ดี ขณะที่เวสบรอมนั้นต้องบอกว่าก็เล่นได้ดีครับแต่ว่าจังหวะการทำประตูนั้นก็ถือว่าไม่ได้สร้างความหนักใจให้กับฟานเดอซาเลยก็ว่าได้

ที่ว่าฟานเดอซาทำแฟนบอลช็อกก็ไม่ได้จะว่าน้าซาหรอกครับเพราะว่าคนเราก็มีพลาดกันได้ แต่ที่พูดถึงนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นอารมณ์ของความเสียดายซะมากกว่าครับ

โดยรวมแล้วนัดนี้แมนยูเล่นได้ดีในครึ่งแรกหลายคนมีส่วนร่วมกับเกมส์ ส่วนครึ่งหลังต้องบอกว่าแมนยูเล่นเหมือนไม่มีกองกลางจริงๆ จะเห็นเล่นอยู่คนนึงก็นานี่ นี่แหละครับ ที่พยามจะเลื้อยอยู่ แต่ก็ช่วยอะไรแมนยูไม่ได้มากนักเพราะบอลไปไม่ถึงหน้าจริงๆ

จังหวะที่น้าซาพลาดต้องบอกว่าช็อครับเพราะว่าเป็นลูกที่ง่ายดูแล้วไม่มีอะไร คือลูกนั้นโด่งและค่อยๆย้อยลงมาน้าซาก็กระโดดและรับด้วยสองมือแต่ลูกดันลอดมากระแทกอกก่อนหล่นใส่เท้าผู้เล่นเวสบรอมวิสเขี่ยเข้าประตูไปแบบงงๆ ส่วนแฟนบอลแมนยูก็ช็อกกับภาพที่เกิดขึ้นจากน้าซา เพราะไม่เคยเห็นน้าซาพลาดแบบนี้มาก่อน หรือไม่เคยพลาดเลยก็ว่าได้

ใกล้หมดเวลาบรรยากาศในสนามดูเหมือนแฟนบอลแมนยูไม่พอใจฟอร์มของนักเตะ ค่อยๆทยอยเดินออกจากสนามก่อนหมดเวลา 90 นาทีเลยด้วยซ้ำ พอกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาก็มีเสียงแฟนบอลโห่ค่อนข้างดัง ผมว่าน่าจะเป็นแฟนบอลแมนยูนั่นแหละที่ไม่พอใจฟอร์มของแมนยูในช่วงหลังๆที่ผ่านมานี้ส่วนสาเหตุเป็นเพราะอะไรนั้นต้องถามเหล่าบรรดานักเตะแดนกลางของแมนยูเอง...

เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซา กับข่าวที่สับสน

มีข่าวมาหลายกระแสครับโดยเฉพาะการแถลงข่าวของโค้ชผู้รักษาประตูทีมแมนยูที่เปรยๆว่าผู้รักษาประตูมือหนึ่งของแมนยูคือเอ็ดวิน ฟานเดอร์ซา นั้นกำลังจะแขวนถุงมือ ขณะที่เอ็ดวิน ฟานเดอร์ซาออกมาแถลงแบบงงๆ ว่าไม่คิดแขวนถุงมือ


แน่นอนว่าผมรู้สึกทันทีว่าทำไมแมนยูเหมือนต้องการผู้รักษาประตูคนใหม่ทั้งๆที่ตอนนี้น้าซาร์ก็ยังเหนียวหนึบอยู่ และเรื่องที่เร่งด่วนมากกว่านั้นในตอนนี้ก็คือ กองกลางเพล์เมกเกอร์มากกว่าที่ควรจะเร่งหามาใช้แทนกิ้กกับสโคว เพราะตอนนี้ไม่มีใครที่เป็นเพล์เมกเกอร์ให้แมนยูได้เลย

พูดตรงๆว่ารู้สึกเหมือนกันว่าแมนยูไม่มีนักเตะแบบโรนัลโด้อยู่เลยตอนนี้ คือโรนัลโด้จะมีความห้าว กล้า และก็ความเร็ว ตอนนี้ดูในรายชื่อนักเตะที่แมนยูสนใจช่วงเปิดตลาดก็ยังไม่เห็นมีใครที่จะมาพร้อมเสริมทัพแบบพร้อมใช้ได้เลย

อยากจะบอกป๋าว่าเอาเพล์เมกเกอร์มาก่อนเถอะน้าซาเขาอยู่ดีดีก็ดีแล้วจริงๆนะ...

อเล็กซิสอ่อยผีเต็มที่!เผยยินดีย้ายร่วมทัพ

ซานเชซ
ซานเชซ
อเล็กซิส ซานเชซ ปีกพรสวรรค์สูงของอูดิเนเซ่ ออกมายอมรับตามตรงว่ามีความฝันที่จะลงเล่นให้สโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังตกเป็นข่าวว่ากำลังถูกเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จับตามองฝีเท้าอยู่


อเล็กซิส ซานเชซ ปีกทีมชาติชิลีของ อูดิเนเซ่ สโมสรชื่อดังแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ออกมายอมรับว่าคงไม่มีทางปฏิเสธโอกาสที่จะได้ลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจแห่งเกาะอังกฤษ หลังจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ "ปีศาจแดง" ออกมาแสดงความต้องการคว้าตัวเขาไปกระชากทำเกมริมเส้นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อไม่นานนี้

ดาวเตะอนาคตไกลวัย 21 ปี ให้สัมภาษณ์กับ อาส สื่อกีฬายักษ์ใหญ่แห่งแดนกระทิงว่า " ยูไนเต็ด น่ะหรือ? แน่นอนว่าผมต้องการลงเล่นให้กับสโมสรระดับนี้อยู่แล้ว สำหรับมาลาก้า? ทำไมจะไม่มีโอกาสล่ะ ไม่ว่าจะทีมไหนก็ตาม ทั้งหมดนี้ต้องผ่านตัวแทนของผมก่อน เพราะว่าเขาคือคนเดียวที่คุยกับสโมสร ผมไม่สนใจอยากรู้เรื่องใดๆ จนกระทั่งขั้นตอนการเจรจามีความคืบหน้า"

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เฟอร์กูสัน ออกมายอมรับว่าประทับในลีลาเพลงแข้งของมิดฟิลด์เลือดชิลี ที่แจ้งเกิดในศึกเวิลด์ คัพ 2010 ที่แอฟริกาใต้ เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาว่า "เราได้จับตาดู ซานเชซ และเขาก็ทำให้เราประทับใจเหมือนกับนักเตะอีกหลายคน"

อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวอีกกระแสว่า นายใหญ่ "เร้ด เดวิลส์" ไม่เพียงแต่จับตา ซานเชซ เท่านั้น แต่ยังสนใจคว้าตัวเพื่อนร่วมสโมสร และทีมชาติ เมาริซิโอ อิสลา ที่สามารถลงเล่นได้ทั้งตำแหน่งแบ็กขวา และปีกขวา ถึงแม้ว่าจะเพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่ไปจนถึงปี 2015 แต่มีเงื่อนไขฉีกสัญญาอยู่ที่ราว 8 ล้านปอนด์ (ราว 384 ล้านบาท

www.siamsport.com

เอามาด่วน!ป๋าเผยเตรียมดึงทอมกลับช่วงปีใหม่




ป๋าเฟอร์กี้ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเผยข่าวดีให้แฟนบอลเร้ด อาร์มี่ รับทราบโดยเขาเตรียมที่จะดึงตัว "เจ้าหนูทอม" มิดฟิลด์ดาวรุ่งเยาวชนทีมชาติอังกฤษกลับมาช่วยในทีมในช่วงเดือนมกราคมหลังจากปล่อยให้วีแกนยืมตัวไปเล่นในฤดูกาลนี้

Credit : Soccersuc

ด่วน!ผีออกล่า ฆาบี้ มาร์ติเนซ ต้นปีหน้า(Goal.com)


ข่าวด่วนร้อนๆก่อนเว็บดังอื่นๆในไทยครับ
อ่านข่าวจากเว็บโกลมา เค้าบอกว่าผีแดงจะซื้อตัว ฆาบี้ มาร์ติเนซ มิดฟิลด์แชมป์โลกของบิลเบามาร่วมทีม
โดยมีการคาดกันว่า ป๋า จะเอาเขามาเป็นตัวแทนของ พอล สโคลส์
แต่ทีมแมนฯยูคงต้องใช้เงินก้อนโตพอสมควรจึงจะง้างใจบิลเบาให้เปิดการเจรจาได้
http://www.goal.com/en/news/9/england/2010/10/05/2151341/manchester-united-line-up-january-move-for-athletic-bilbaos-javi-


ไม่รู้ว่าข่าวจริงหรือมั่วนิ่ม แต่ถ้าได้มาจริงผมโครตดีใจเลย
เพราะ ฆาบี้ มาร์ติเนซ เป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอลสเปน
คิดดูว่าอายุเพียง 22 ปีก็ติดทีมสเปนไปเป็นแชมป์บอลโลกแล้ว
ขณะที่เจ้าตัวก็เริ่มเป็นตัวจริงแบบสม่ำเสมอให้กับบิลเบา ด้วยวัยแค่ 17 ปีเท่านั้น

ด้วยรูปร่างที่สูงตั้ง 190 เซนติเมตร ทำให้เขาขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและพละกำลังที่มากล้น
แต่นั้นก็ยังไม่เท่าเซนส์ในการจ่ายบอล และคุมจังหวะของเกมที่เขาทำได้เนียนตามาโดยตลอด
ด้วยการที่เป็นนักเตะที่เก่งทั้งรุกและรับ
ผมจึงเชื่อว่าถัดจากยุคของ ชาบี้ เอร์นานเดซ กับ ซาบี้ อลองโซ่
ทีมชาติสเปนจะมีแผงกลางที่นำโดย เชส ฟาเบรกาส , เซร์จิโอ บุสเก็ตส์ และ ฆาบี้ มาร์ติเนซ


เครดิต MAKIBAO

เบลลามี่บ่นอยากมาผีแต่เรือคันขวาง




เคร็ก เบลลามี่ กองหน้าถีบจักรเผยเกือบจะได้ข้ามฟากย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรคู่อริอยู่แล้วแต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขัดขวางเอาไว้ส่งไป คาร์ดิฟฟ์ แทน
ดาวยิงทีมชาติเวลส์ย้อนความหลังไปเมื่อเดือนสิงหาคมว่าเขาได้รับข้อเสนอหลายทีมหนึ่งในนั้นมี "ปีศาจแดงรวมอยู่ด้วยแต่โอกาสย้ายแทบไม่มีเลยเพราะรู้ๆกันอยู่ว่าสองทีมคู่คือปรับตลอดกาล

"
มันจะกลายเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเลยล่ะหากมีการย้ายทีมเกิดขึ้น ผมได้คุยกับเอเยนต์ของผมเพื่อกำหนดอนาคตร่วมกันอดีตหอกลิเวอร์พูลแย้ม

"
ผมเชื่อว่าคงเป็นเพราะมีทีมนั้นให้ความสนใจจน ซิตี้ ถึงกับเต้นเป็นเจ้าเข้าและรีบมาบอกให้ผมไปคาร์ดิฟฟ์ พวกเขาดำเนินการย้ายทีมอย่างด่วนจี๋เลย"

_________________
##### 
ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

"นิวโด้จิ๋ว" ขอเป็นศิษย์ป๋ามกรานี้





อเล็กซิส ซานเชซ เจ้าของฉายา "นิว คริสติอาโน่ โรนัลโด้"ของอูดิเนเซ่ ยื่นความประสงค์ต้องการร่วมงานกับท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงฉลองเทศกาลต้อนรับปีใหม่

"
สปอร์ตสำนักข่าวชื่อดังอ้างจากแหล่งข่าวในประเทศอิตาลีระบุชัดปีกจอมเลื้อยวัย 21 ปีเป็นที่ต้องตาต้องใจป๋าเฟอร์กี้ถึงขนาดออกมายอมรับเมื่อเร็วๆนี้ว่า

"
ซานเชซเป็นนักเตะดาวรุ่งที่มีอนาคตสดใสรออยู่ เขามีพรสวรรค์มากและยิ่งถ้าพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง เขาจะบรรลุฟอร์มระนาบเดียวกับ คริสติอาโน่ โรนัลโด้บรมกุนซือปีศาจแดงซูฮกในความเก่งกาจ
ขณะเดียวกันแหล่งข่าวยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าเมื่อช่วงซัมเมอร์ระหว่างที่ตลาดนักเตะยังเปิดทำการ ซานเชซ บอกกับเพื่อนๆว่าเขาใฝ่ฝันจะไปค้าแข้งที่รังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งมีการคาดการณ์ล่วงหน้าเดือนมกราคม 2011 การย้ายทีมน่าจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นโดย อูดิเนเซ่ ตั้งราคาไว้ที่ 15-20 ล้านปอนด์


_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck ##### 

ฟอร์ลันเปรยสนรีเทิร์นพรีเมียร์ลีก!


ดีเอโก้ ฟอร์ลัน หอกตัวเก่งของแอตเลติโก มาดริดออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตนสนใจที่จะย้ายกลับไปค้าแข้งในลีกเมืองผู้ดีอีกครั้ง แต่มีโอกาสเป็นไปได้ในกรณีที่ต้นสังกัดได้รับข้อเสนอที่ไม่อาจปฎิเสธได้เท่านั้น

     ฟอร์ลัน ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเล่นในลีกสเปนร่วมทีม บียาร์รีล เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ก่อนจะโยกมาเล่นกับ แอตเลติโก มาดริด กับทั้ง 2 สโมสร ฟอร์ลัน ประสบความสำเร็จสูงสุดคว้ารางวัล "ปิชิชี่" (ดาวซัลโวสูงสุด) ควบ รางวัลรองเท้าทองคำ ได้ถึง 2 สมัย

     "ถ้าสโมสรได้รับข้อเสนอที่ดีซึ่งมันยังมาไม่ถึง ผมอาจจะอยู่หรือย้าย ผมอาจจะต้องพิจารณา ผมเดินทางมายุโรป ย้ายออกมาจากบ้านและทุกสิ่งทุกอย่างที่นั่น ดังนั้นอะไรหลายอย่างมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทีมสำหรับความรู้สึก เป็นความรู้สึกอย่างเดียวเท่านั้น"

     "ช่วงเวลาที่ผมใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ เป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุด ผมสนุกและถ้ามีโอกาสผมจะกลับไป ผมอยากเห็นภาพบรรยากาศแบบนั้น แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้เฉพาะเงื่อนไขและสถานการณ์ที่ผมได้กล่าวนั่นล่ะ" ฟอร์ลัน กล่าว


เครดิต รักบอล

ผีเปิดศึกเชลซี-มาดริดล่าเดรอสซี่มิดฟิลด์โรม่า

ดานิเอเล่ เด รอสซี่

"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สนใจ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีของโรม่า มาเสริมแกร่งแดนกลางปีหน้า 

เว็บไซต์"โกลด์ดอทคอม"รายงานข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า!"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สนใจที่จะคว้าตัว ดานิเอเล่ เด รอสซี่ มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีของโรม่า มาเสริมแกร่งแดนกลางในช่วงที่ตลาดซื้อขายนักเตะเปิดทำการเดือนมกราคมปีใหม่นี้ แต่งานนี้ไม่ง่ายเมื่อก่อนหน้านี้ทั้งเชลซี และ รีล มาดริด ต่างก็มีข่าวออกมาพัวพันอยู่กับ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ เช่นกัน

เว็บไซต์ชื่อดังของอังกฤษ ยังระบุด้วยว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่แห่งถิ่นโอลด์แทร็ฟ ฟอร์ด กำลังเฝ้าจับตามองและติดตามสถานการณ์ของมิดฟิลด์วัย 27 ปี ที่มีสัญญาค้าแข้งอยู่กับ โรม่า ถึงปี 2012 อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้แล้วเดือนมกราคมนี้ เฟอร์กี้ เตรียมที่จะยื่นข้อเสนอจำนวน 35 ล้านยูโร (ราว 1,400 ล้านบาท) ให้ทาง โรม่า พิจารณาปล่อยตัว

ผีรุกคืบทาบนายด่านโคน

    “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความสนใจดึงตัว อันเดอร์ส ลินเดการ์ด นายทวารทีมชาติเดนมาร์กมาเฝ้าเสา หลังมีรายงานข่าวว่าส่งโค้ชผู้รักษาประตูไปดูฟอร์มของนักเตะเป็นครั้งที่ 5 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
      
       "เดลีเมล์" สื่อเมืองผู้ดีรายงานว่า เอริก สตีล โค้ชผู้รักษาประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด เดินทางไปยังประเทศนอร์เวย์เพื่อดู ลินเดการ์ด เล่นให้กับ อาเลซุนด์ สโมสรต้นสังกัดแข่งกับ สเตเบค แม้ว่า อาเลซุนด์ แพ้ไป 1-2 แต่นายด่านวัย 26 ปีได้รับเสียงชื่นชมจากฟอร์มการเล่น
      
       สตีล เคยบินไปดูฟอร์มของ ดาบิด เด เกีย นายด่านของ แอตเลติโก มาดริด แห่งศึกลาลีกา สเปน เช่นกันเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีการติดต่อกับ อาเลซุนด์ แล้วในเบื้องต้นและสโมสรแห่งลีกนอร์เวย์ก็คาดว่าจะมีการยื่นข้อเสนอมาให้พิจารณาในเร็ววันนี้
      
       ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล และ เอซี มิลาน ก็จับตาดูสถานการณ์ของ ลินเดการ์ด เช่นเดียวกัน แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะเป็นทางเลือกแรกๆของนักเตะมากกว่า เนื่องจาก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายด่านชาวดัตช์ซึ่งเป็นมือ 1 ภายในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดใกล้ปลดระวางในเร็ววันนี้
      
       นอกจากนี้มีรายงานอีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจับตา บรูโน มอนเตลอนโก แบ็กขวาชาวอุรุกวัย ที่ตอนนี้ถูก มิลาน ยืมตัวมาจาก ริเวอร์เพลท มอนเตวิเดโอ และคาดว่านักเตะวัย 23 ปีมีค่าตัว 7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 350 ล้านบาท) ขณะเดียวกัน "ผีแดง" ก็ได้ปฏิเสธ ลาซิโอ และ เอฟเวอร์ตัน ที่ขอยืมตัว เฟรเดริโก มาเคดา กองหน้าดาวรุ่งชาวอิตาเลียน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ตำนานปืนเห็นใจโอเว่นไม่ได้โอกาสกับผี

ตำนานปืนเห็นใจโอเว่นไม่ได้โอกาสกับผีชาลี นิโคลัส ตำนานอาร์เซน่อล นักวิเคราะห์เกมทางช่องทีวีสกาย สปอร์ตส์ ฉงนกับการจัดการทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ๊า ซันเดอร์แลนด์ 0-0 โดยเฉพาะการส่ง ไมเคิ่ล โอเว่น เล่นหน้ากับ เฟเดริโก้ มาเคด้า พลางบอกสุดเห็นใจ "เบบี้โกล์" ได้เล่นครึ่งเดียว แถมกองกลางก็ไม่ได้สนับสนุนกองหน้าเลยด้วย


     ชาลี นิโคลัส ตำนานกองหน้าอาร์เซน่อล และ กลาสโกว์ เซลติก ชาวสกอตแลนด์ กูรูลูกหนังรายการ "ซอคเก้อร์ แซทเทอร์เดย์" ของช่องสกาย สปอร์ตส์ แสดงความเห็นถึงเกมพรีเมียร์ลีก ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอ ซันเดอร์แลนด์ 0-0 วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยบอกว่าเสียใจ และผิดหวังแทน ไมเคิ่ล โอเว่น กองหน้าร่างเล็ก ที่นอกจากได้ส่งลงสนามในเกมที่เล่นยากแล้ว เพื่อนร่วมทีมยังเล่นไม่ดีด้วย 


     นิโคลัส บอกว่าเขาแปลกใจมากที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลือก โอเว่น เล่นหน้าคู่กับ เฟเดริโก้ มาเคด้า ในเกมที่ ยูไนเต็ด จัดทีมแบบแปลกๆ และเล่นไม่ดี สุดท้าย โอเว่น ถูกถอดออกตอนพักครึ่ง และเป็น ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ที่ลงมาเล่นแทน ซึ่ง อดีตหัวหอก เดอะ กันเนอร์ส รู้สึกเห็นอกเห็นใจ "เบบี้โกล์" อย่างที่สุด เพราะเป็นเกมที่เขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมเลยแม้แต่น้อย 


     "ผู้จัดการทีมส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วย มักให้โอกาสคุณเล่น 60-65 นาที ไมเคิ่ล โอเว่น แทบไม่ได้รับการสนับสนุนจากทีม มันไม่ใช่ว่า ผมหันมา และดู ไมเคิ่ล โอเว่น เล่น และคิดว่า - เขาไม่ขยัน , เขาไม่ลงมาช่วยเชื่อมเกมเลย - มาเคด้า กับ โอเว่น ผมรู้ว่าคุณใช้งานพวกเขาได้ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ แต่เกมเยือน ซันเดอร์แลนด์ นี่ไม่หมู" 


     "พวกเขา (ยูไนเต็ด) ตั้งรับ และแผงมิดฟิลด์ก็ไม่ได้ช่วยกองหน้าเลย เพราะ ซันเดอร์แลนด์ ปิดพื้นที่พวกเขาหมด เกมมันต้องขึ้นทางริมเส้น แต่โชคไม่ดี  นานี่ ก็ไม่ได้ช่วยพวกเขามากมายนัก ผมเสียใจกับ ไมเคิ่ล โอเว่น เขาจะรู้สึกยังไง ? เขาถูกเปลี่ยนตัวออกตอนพักครึ่ง ในเกมที่เขาแทบไม่ได้โอกาสทำอะไรเลย แต่ว่าผู้จัดการทีมจำเป็นต้องตัดสินใจที่สำคัญ"   
เครดิต siamsport

ดาร์รอน กิ๊บสัน : ขอเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดไป


ในช่วงสัปดาห์ที่กำลังจะมีเกมทีมชาติ คัดยูโร 2012 แบบนี้ ดาร์รอน กิ๊บสัน กองกลางเด็กปั้นชาวไอริชของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดหวังถึงโอกาสที่จะได้ลงสนาม หลังจากใช้เวลาส่วนใหญ่กับ "ปีศาจแดง" เป็นตัวสำรอง 


กิ๊บโบ้ ไม่อยู่ในโผทีมชาติไอร์แลนด์ ชุดคัดยูโร 2012 สองนัดก่อนนี้กับ อาร์เมเนีย และ อันเดอร์ร่า และจากนั้นก็มีข่าววุ่นวายออกมาเมื่อเดือนก่อนที่ กิ๊บสัน ตอบโต้ โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ ว่ากล้าดียังไงถึงพูดเชิงประชดว่า ให้เขาย้ายออกจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปเล่นแบบยืมตัวกับ สโต๊ค ซิตี้ เพื่อพัฒนาการสกัดบอล ก่อนที่ในเวลาต่อมา เรื่องจะคลี่คลายลงในลักษณะที่ว่า มันเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด
  
แต่เสียงวิจารณ์จาก "อิล แทร็ป" ยังมีเรื่องความกระหายในความสำเร็จของเขาด้วย เพราะอยู่กับ "ปีศาจแดง" ยังไงก็อยากที่จะได้เล่นสม่ำเสมอ "ผมไม่รู้นะว่าทำไมถึงมีคนบอกว่าผมไม่มีความทะเยอทะยาน และถ้าหากนั่นเป็นเหตุผลที่ผู้จัดการทีมไม่เลือกผม ผมก็จะเซอร์ไพรส์มาก เพราะผมไม่ได้แสดงให้เห็นเสียหน่อยว่าผมขาดความกระหายเวลาซ้อม ผมเข้าใจที่ โจวานนี่ บอกว่า ผมต้องปรับปรุงเกมรับ เขาพูดถูก"
  
"การไม่ได้เล่นก็น่าหงุดหงิด แน่นอน ผมอยากเล่นให้ทีมชาติไอร์แลนด์ ทุกนัด แต่ผมเข้าใจได้ว่าทำไมผมไม่ได้เล่น มีนักเตะคนอื่นๆ ที่ได้เล่นให้ต้นสังกัดทุกอาทิตย์ มันก็ขึ้นอยู่กับผมเองว่าจะต้องลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากกว่านี้หากอยากเป็นตัวหลักของทีมชาติไอร์แลนด์"
  
เรื่องแบบนี้พูดง่ายกว่าทำเยอะ เมื่อคุณต้องแย่งตำแหน่งกับ อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค และ พอล สโคลส์ แต่ชีวิตนักเตะ "ปีศาจแดง" มันก็ทำให้ตัดสินใจยากมากขึ้น เพราะขณะที่คุณจะไม่ได้เล่นบ่อยนัก แต่อย่างน้อยคุณก็รู้ว่าคุณได้เล่นในรายการสำคัญๆ และตอนนี้ มิดฟิลด์จอมตะบันไกล วัย 23 ปี คว้าแชมป์ลีกคัพ 2 สมัย แม้จะได้เล่นเป็นตัวจริงแค่ 23 นัดเท่านั้น ตรงข้ามนักเตะหลักอย่าง ร็อบบี้ คีน, เชย์ กิฟเว่น และ ริชาร์ด ดันน์ รวมกัน 3 คนได้แชมป์มารายการเดียวด้วยซ้ำ
  
"มองแง่หนึ่ง ผมก็อยู่ในสถานการณ์ที่เลือกอะไรไม่ถูก แต่คุณจะอยากย้ายออกจาก ยูไนเต็ด เหรอ คุณจะอยากอยู่เล่นที่นี่ไปตลอดชีวิตนักเตะ เพราะคุณจะคว้าแชมป์ ประสบความสำเร็จมากกว่าที่อื่น" กิ๊บสัน กล่าว
  
และคนที่รับผิดชอบการนำความสำเร็จมาสู่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็คือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้ที่ กิ๊บสัน นับถือเหมือนพ่อคนที่สอง "เจ้านายดีมากกับการคุยแบบตัวต่อตัว ไม่ว่ายังไงเขาจะพูดกับคุณตรงๆ ถ้าคุณเล่นดี เขาจะบอกว่าคุณเล่นดี แต่ถ้าไม่ เขาก็จะบอกให้คุณรู้เหมือนกัน ผมชอบนะ เขาเป็นคนที่จัดการบริหารคนเก่ง และเป็นผู้จัดการทีมที่สุดยอดด้วย คุณไม่มีอะไรแย่ๆ ที่จะพูดถึงเขาเลยก็ว่าได้ ขนาดตอนเขายืนดูเราซ้อมข้างสนาม มาตรฐานจะสูงขึ้นกว่าตอนเขาไม่อยู่มาก ทุกคนอยากทำให้เขาประทับใจ"
  
กิ๊บสัน รับฟังคำสั่งสอนของ เฟอร์กี้ แม้ยามที่ไม่ได้เอ่ยถึงเขา "ระหว่าง และหลังเกม ถึงผมจะไม่ได้เล่น ผมจะเข้าไปในห้องแต่งตัว และฟังว่าเขาบอกอะไรกับพวกกองกลางบ้าง อย่างน้อยผมก็จะได้รู้ว่าเขาอยากให้นักเตะเล่นแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน และนั่นแหละที่ผมจะเอาไปใช้ปรับปรุงการเล่นของตัวเอง"
  
แม้เขาจะเป็นนักเรียนที่ดี ตั้งใจทำการบ้าน แต่ปัจจัยที่ทำให้ กิ๊บสัน ก้าวขึ้นมาอย่างแท้จริงคือความรู้สึกกลัว เขาอายุ 21 ปีตอนรู้ว่าตัวเองจะเป็นพ่อคน เขาอายุน้อยพอที่จะกลัวกับชีวิตที่เปลี่ยนแปลง แต่ก็โตพอที่จะมีความสุขกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ เขารู้ว่าเขาสามารถหาเลี้ยง และดูแลครอบครัวได้ และในฐานะนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ความทะเยอะทะยานของไร้ซึ่งขีดจำกัด
  
"ผมไม่มีความสุขที่ไม่ได้เล่นทุกสัปดาห์ และผมคิดกับตัวเองว่า - ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดเพื่อให้ได้อยู่ในทีมนี้ ไม่งั้นก็ต้องทำอะไรอย่างอื่น - ความกลัวว่าจะต้องย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นตัวผลักดันผม ผมไม่เคยอยากย้ายออกจากทีมๆ นี้ และผมตั้งใจว่าจะอยู่เล่นที่นี่ไปจนเลิก"  
  
แต่ความไม่มั่นคงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะตั้งแต่วัยรุ่นแล้วที่ความรู้สึกตัวเองแปลกแยกอยู่ในหัวของเขา เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเดินเข้ามาใน แคร์ริงตัน และซ้อมกับนักเตะที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นฮีโร่ของเขา "ตอนแรกที่ผมได้ซ้อมด้วย มันขนลุกเลย เมื่อ 2 ซีซั่นก่อนผมไม่ได้แสดงตัวตนที่แท้จริง เพราะผมยังสงสัยตัวเองอยู่ว่าผมดีพอที่จะเล่นที่นี่จริงเหรอ แต่พอผมกลับมาอีกครั้งตอนเปิดฤดูกาลก่อน ทุกคนบอกว่าผมเปลี่ยนแปลงไปอย่างเหลือเชื่อ ผมรู้สึกสบายใจมากขึ้นกับการเป็นสมาชิกของทีม ผมไม่รู้ว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นเพราะผมอยากกลับมา และทุ่มเทเต็มที่หรือเปล่า"
  
รางวัลความมุมานะของ กิ๊บสัน คือการได้เป็นตัวจริงในนัดชิงฯ คาร์ลิ่ง คัพ ที่ เวมบลีย์ ฤดูกาลที่แล้ว ทั้งยังการเป็นตัวจริงในเกมลีก และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย ถึงกระนั้นเขาก็ได้เล่นแค่ 1 ใน 3 ของเกมที่ ยูไนเต็ด ลงเล่นทั้งซีซั่นก่อน แต่เขาก็ไม่เสียใจเลย "เมื่อคุณไม่ได้เล่นให้ทีมชุดใหญ่ตลอดเวลา คุณต้องแสดงให้ทุกคนเห็นตอนซ้อมว่าคุณทำอะไรได้บ้าง นี่คือความกดดัน แต่มันเป็นความกดดันที่ดี"  


    เครดิต  พี่ร็อกโคราช

โอเชกระตุ้นแข้งผีพัฒนาฟอร์มนอกบ้าน


จอห์น โอเช ปราการหลังสารพัดประโยชน์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกพรีเมียร์ ออกมากระตุ้นเพื่อนร่วมทีมพยายามพัฒนาการเล่นเกมเยือนให้ดีขึ้นกว่าเดิม หลังช่วงที่ผ่านมาฟอร์มหลุดยามที่ออกไปเล่นนอกบ้านมาตลอด

     "ปีศาจแดง" โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีในเกมเยือนฤดูกาลนี้ โดยพวกเขาออกไปเสมอ ฟูแล่ม, เอฟเวอร์ตัน และล่าสุด ซันเดอร์แลนด์ ทำให้มีแต้มตามหลังจ่าฝูง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ถึง 5 คะแนน อย่างไรก็ตาม ดาวเตะทีมชาติไอร์แลนด์ มั่นใจว่าพวกเขาจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

     กองหลังวัย 29 ปี กล่าวว่า "การเล่นเกมเยือนเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมากๆ แต่ผมมองว่าเราสามารถกลับมาได้เพราะเราเป็นทีมที่มีคุณภาพ และมีประสบการณ์ เราไม่รู้ว่าผลเสมอจะส่งผลไปจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้หรือเปล่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักโดนวิจารณ์มาตลอดเวลาที่ได้ผลเสมอ 2-3 เกม ผู้คนมักพูดถึงการล้มสลายของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของเรา เราคุ้นเคยกับเรื่องนี้ ถ้ามันเกิดขึ้นทุกซีซั่น มันก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าการวิจารณ์เป็นเรื่องผิดพลาด"

     แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ 7 เกมในซีซั่นที่แล้ว ทำให้พลาดแชมป์ลีกด้วยการมีแต้มตามหลัง เชลซี แค่ 1 คะแนนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในซีซั่นนี้พวกเขายังไม่แพ้เลย โดย โอเช่ ให้ความเห็นว่า "คุณย่อมรู้สึกสบายใจที่เรายังไม่แพ้ แต่แมตช์ที่เดินทางไปพบ ฟูแล่ม กับ เอฟเวอร์ตัน เราน่าจะปิดเกมได้ แต่เราสามารถที่จะรักษาผลการแข่งที่ไม่แพ้ได้อีกหลายเกม และเปลี่ยนผลเสมอให้เป็นชัยชนะได้"


เครดิต สยามกีฬา

ลุยรังผี โดย เอกราช เก่งทุกทาง

ผมเพิ่งกลับจากไปดูบอลอังกฤษกับทีมงาน 100 Fantasy Football ทริปนี้ได้ดู 2 คู่ครับ แมนฯ ยูฯ- ลิเวอร์พูล กับอาร์เซนอล-เวสต์บรอมวิช นอกจากยิงรวมกันถึง 10 ประตู ยังสนุกเข้มข้นทั้งสองเกมอีกต่างหาก
โดยเฉพาะคู่ชนช้าง ผีปะทะหงส์ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ลืมไม่ลง

อารมณ์ตื่นเต้น ระทึกใจจากการดูคู่นี้ทางหน้าจอทีวีที่ผ่าน ๆ มา เทียบกันไม่ได้เลยกับของจริงในสนาม ยิ่งนัดล่าสุดถือเป็นเกมคลาสสิก มีไฮไลต์มากมาย ทั้งแฮตทริกของดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ การคัมแบ็กกลับมาเสมอ 2-2 ของลิเวอร์พูล รวมทั้งลูกตีลังกายังเช็ดคานอย่างเหนือชั้น มันก็เลยยิ่งเป็นกำไร เป็นโชคดีของคนที่อยู่ในสนามเข้าไปใหญ่

วันนั้นพวกเราได้ตั๋วฝั่งทีมเหย้า นั่งอยู่ในกลุ่มเรด เดวิลล์ แฟนปีศาจแดง ใกล้กับอัฒจันทร์ฝั่งเวสต์สแตนด์ หรือ สเตรตฟอร์ด เอนด์ ที่สิงสถิตของเหล่าแฟนเดนตายกลุ่มฮาร์ดคอร์ ซึ่งเท่าที่เห็นมาก็แสดงพลังได้น่าขนลุก ทั้งร้องเพลงปลุกใจนักเตะแทบตลอดเกม ทั้งส่งเสียงโห่ กดดันฝ่ายตรงข้าม พวกนี้ทำงาน อย่างไร้ที่ติ ไม่ต้องคิดลึกซึ้งก็รู้ได้ทันทีว่า ทำไมแมนฯ ยูฯจึงพลาดท่าในบ้านตัวเองยากมาก ๆ
ช่วงที่สัมผัสได้เลยถึงความเป็นเกมแมนฯ ยูฯ-ลิเวอร์พูล คือ ตอนสกอร์เสมอ 2-2 มันมีครบทุกอย่าง ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น เครียดก็เครียด ความขลังก็สัมผัสได้ พูดง่าย ๆ อารมณ์ช่วงนั้นขึ้นไป พีกสุด ๆ และน่าจะเป็นเหมือนกันทั้งสนามด้วย
ผมจับอารมณ์ร่วมของคน 7 หมื่นกว่าคนที่พุ่งลงไปในเกม ดูแล้วนึกเห็นใจกรรมการ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ขึ้นมาทันที เวลาเป่า ไม่ถูกใจ มันเหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่เข้าใส่จากทุกทิศทุกทาง ทั้งด่า ทั้งโวยวาย ระบายออกด้วยเสียงโห่ดึงกึกก้อง ใครประสาทไม่แข็งจริงมีสิทธิสติแตกเอาง่าย ๆ เลยแหละ
แมนฯ ยูไนเต็ดเล่นเหนือกว่า แถมมีแฟนบอลช่วยหนุนมหาศาล ได้ 3 แต้มไปจึงถือว่าสมเหตุสมผล ขณะที่ฝ่ายหงส์แดงแม้จะแพ้ก็พอจะมองเห็นแววว่าค่อย ๆ ดีขึ้น ถ้าให้เวลากุนซือรอย ฮอดจ์สัน อีกหน่อยก็คงเข้าที่เข้าทางไปเอง
มาตรฐานพรีเมียร์ลีกเดี๋ยวนี้ชื่อขายไม่ได้ ไม่มีใครกลัวเสือกระดาษอีกต่อไป แม้แต่นัดที่ทีมใหญ่เจอทีมเล็ก ถ้ารายแรกมาไม่ดีจริงก็โดนเตะหงายท้องได้ทันที
เหมือนอาร์เซนอลวันแพ้เวสต์บรอมวิชไงครับ เกมนั้นปืนใหญ่ไม่มี ฟาเบรกัส, วัลคอตต์, ฟาน เพอร์ซี่, แวร์มาเลน แถมตัว ที่ลงไปลุยอย่างประตู อัลมูเนีย, มารูยาน ชามัคห์, อังเดร อาร์ชาวิน ก็ดันเล่นไม่ออก สุดท้ายเลยแพ้พลิกล็อกคาบ้านแบบเหลือเชื่อ
ผมเองก็อึ้ง แต่บอกได้เลยว่าถ้าเวสต์บรอมวิช รักษามาตรฐาน ดี ๆ นอกจากไม่ตกชั้น ยังมีลุ้นติดท็อปเทนด้วยซ้ำ !

แมนยูหลังเหนียวหรือแย่กันแน่

ผลงาน2นัดหลังสุดของแมนยูที่เป็นคลีนชีตนั้นบ่งบอกว่าแมนยูหลังเหนียวยังงั้นหรือ มีหลายคนดูแมนยูจบแล้วก็ถอนหายใจแล้วบอกว่า เฮ้อยังดีหลังแน่นไม่เสียประตู

แต่สำหรับผมแล้วผมว่าหลังแมนยูไม่ได้แน่นอะไรเลยครับ หลวมโครกซะด้วยซ้ำ ผมบอกตรงๆเลยว่าแมนยูตอนนี้อยู่ในฟอร์มที่แย่ที่สุดเลยครับ 2 นัดล่าสุดเกมส์เป็นอย่างไรบ้างลองมานึกย้อนไปดูกัน

นัดแรกเป็นนัดที่เราชนะบาเลนเซียมาได้แบบสุดงง เพราะตลอดทั้งเกมส์กลางแมนยูเล่นเหมือนบอลหมู่บ้านเตะผิดเตะถูก การส่งบอลไม่ต้องพูดถึง แต่นัดนี้ก็โชคดีที่บาเลนเซียก็ดูเกร็งไปด้วยเลยไม่ได้อยู่ในฟอร์มของตัวเองและต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเองด้วยซ้ำ นั่นบ่งบอกให้รู้ครับว่าแมนยูนัดนี้ไม่ได้มีอะไรดีเลย บังเอิญจริงๆที่บอลจากมาเชด้าส่งให้ถั่วน้อยได้จังหวะยิงเข้าไปได้ ถ้าไม่อย่างนั้นลองนึกดูถ้าแมนยูเสมอและฟอร์มเป็นแบบนั้นอารมณ์บู่จะมากขนาดไหน

คลีนชีตนัดที่สองคือนัดเจอซันเดอแลนที่ผ่านมาเรียกว่าเห็นได้ชัดเจนว่าที่ไม่เสียประตูเพราะว่าโชคช่วยบวกกับซันเดอแลนนั้นไม่คมเอง ทั้งจังหวะยิงชนเสา จังหวะหลุดเดี่ยวและอีกหลายจังหวะที่เราเห็นว่าแมนยูโดนแน่ๆ แต่ก็รอด อยากจะถามว่าแบบนี้หลังแน่นตรงไหน นัดนี้บ่งบอกมากกว่าว่าแมนยูถ้าเจอกองหน้าคมๆอย่างดร็อกบาไม่มีเหลือแน่ๆ แทนที่จะบอกว่าหลังแน่น

คลีนชีดสองนัดนี้ไม่ได้แสดงให้เห็นสักนิดครับว่าแมนยูหลังแน่น และเมื่อย้อนไปในทุกๆนัดก่อนหน้านี้แมนยูเสียประตูไปมากมายซะด้วยซ้ำ ตอนนี้ต้องบอกเลยครับว่ากลางกับหลังแมนยูฟอร์มตกสุดขีดส่วนกองหน้านั้นผมเชื่อว่ายังมีพิษสงอยู่แต่ว่าไม่มีกลางสนับสนุนสร้างจังหวะให้เท่านั้น

ก็คงต้องคอยดูกันต่อไปนะว่าจะมีกลางเพล์เมคเกอร์เก่งๆเกิดขึ้นหรือว่าซื้อเข้ามาแบบพร้อมใช้ไม่รอปั้นหรือไม่ เพราะตอนนี้จะมัวปั้นคงไม่ต้องเอาถ้วยพรีเมียร์แล้วหละว่ามั้ย...



แมนยูยังบู่ไม่เลิกเสมอซันเดอแลนแบบน่าอาย

แมนยูไนเต็ดฟอร์มบู่ไม่เลิก เล่นไร้จินตนาการเสมอซันเดอแลนแบบน่าเบื่อ แล้วยังต้องลุ้นเสียวตลอดทั้งเกมส์ต้องบอกว่าเสมอมาได้เพราะโชคช่วยจริงๆ ซันเดอแลน0-0แมนยู

อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับว่าผมเป็นแฟนทีมอื่น ผมเป็นแฟนแมนยูครับแต่ที่ติติงก็เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตลอดเกมส์เราโดนซันเดอเเลนยิงเอายิงเอา ขณะที่แดนกลางก็เล่นเหมือนนัดที่ไปชนะบาเลนเซียแบบงงๆ คือรู้สึกเหมือนแมนยูไม่มีกองกลางครับ

ลองสังเกตกองกลางแมนยูตอนนี้ให้ดีดีนะครับจะมี ไล่มาจากทางขวาก็นานี่ เฟรตเชอร์ สโคว แอนเดอสัน คนที่ทำเกมส์ได้นั้นมีอยู่คนเดียวจริงๆครับคือนานี่ ส่วนเฟรตเชอ สโคว และแอนเดอสันนั้นจะบอกว่าอยู่ในช่วงเวลาที่ฟอร์มตกก็ไม่ผิด เพราะไม่สามารถพลิกบอลทะลวงเข้าแนวรับของซันเดอแลนได้เลย

ลองสังเกตดูก็ได้ครับว่าใครพลิกบอลเข้าหากองหลังซันเดอแลนได้บ้าง...

ตลอดครึ่งแรกจบลงแบบงงมากครับว่านี่หรือคือแมนยู.... จากสถิติที่ขึ้นหน้าจอบอกว่าแมนยูยิงเข้ากรอบ 0.....

ผมลุ้นว่าครึ่งหลังเกมส์แมนยูจะดีขึ้นหรือว่ามีจังหวะอะไรที่ดีกว่านี้ แต่ก็ต้องรอถึงช่วง 15 นาทีสุดท้ายที่ป๋าเราส่งเฮอนันเดชลงมา ผมรู้สึกว่าใช่เลยเมื่อเบิฟเก็บบอลได้บวกกับความเร็วและกล้าของเฮอนันเดช เสียดายที่ลงมาช้าไปหน่อยไม่งั้นผมว่าน่ามีลุ้นได้เห็นอะไรดีดีแน่ๆ

ผมไม่รู้ว่าป๋ามองเห็นหรือยังหรือว่าหาซื้อกองกลางแต่อยู่แต่ว่ายังไม่ได้ ปัญหามันอยู่ที่ไม่มีกองกลางห้าวๆ เพล์เมคเกอร์สักคนนึง ที่จะคอยปั้นเกมส์ ดูแล้วอึดอัดจริงๆ

จบเกมส์ก็ผิดหวังตามเคยครับ ผมไม่ได้ผิดหวังที่เสมอนะครับ ผมผิดหวังที่เห็นแมนยูเล่นแบบนี้ ฟอร์มตกกันยกแผงกลางจริงๆ ซื้อสตาร์กองกลางห้าวๆมาคนนึงเถอะครับป๋าเอาแบบฟอร์มดีดีนะไม่เอาปั้นอะตอนนี้......
Powered by Blogger