Love Manchester United

ลือสะท้านวงการลูกหนังเมืองผู้ดีว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเตรียมถลุงเงิน 122 ล้านปอนด์ไปกับการสอยคริสเตียโน่ โรนัลโด้ปีกจอมสับของเอรัล มาดริดกลับมาร่วมทีมอีกครั้ง

แข้งโปรตุกีสเพิ่งตกเป็นข่าวเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนว่าอยากย้ายกลับถิ่นโอลด์แทร็ฟฟอร์ดให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่มีอุปสรรคอยู่ที่ในตอนที่"ราชันชุดขาว"ทุ่มเงิน 80 ล้านปอนด์ดึงนักเตะไปร่วมทัพก็ได้ผูกมัดผู้เล่นด้วยค่าฉีกสัญญาไว้สูงลิ่วถึง 1,000 ล้านปอนด์ในตอนนั้นและเหลือ 810 ล้านปอนด์ในปัจจุบันจากสัญญาที่เหลืออีก 2 ปีครึ่ง

แต่เชื่อกันว่าเรอัล มาดริดพร้อมรับข้อเสนอมูลค่า 122 ล้านปอนด์ที่มีมาถึงโรนัลโด้เพราะจะทำให้พวกเขาได้รับเงินมากถึง 272 ล้านปอนด์เมื่อนับรวมค่าจ้างของแข้งวัย 27 ปีที่กดไป 170 ประตูจากการเล่น 169 เกมที่สเปน

ขณะที่"ปีศาจแดง"พร้อมสู้กับค่าตัวดังกล่าว หลังมองว่าสามารถเรียกเงินก้อนนี้คืนได้สบายๆจากการขายเสื้อแข่งของโรนัลโด้ในอนาคตแถมสโมสรยังเพิ่งทำเงิน 150 ล้านปอนด์จากการปล่อยหุ้น 10 เปอร์เซ็นต์เข้าตลาดหุ้นนิวยอร์ค

ขอบคุณข่าวแมนยูจาก http://www.hugball.com

มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจนะครับว่าทำไมนักเตะดาวรุ่งหลายๆคนในยุโรปที่ฟอร์มกำลังจัดจ้านหลายๆคนที่แมนยูสนใจและต้องการมาเสริมทีมนั้น มักจะปฏิเสธกลับมา ทั้งๆที่แมนยูก็ไม่ได้เป็นทีมเล็กๆ หรือว่าไม่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในเวทีใหญ่ๆ หลายครั้งแล้วครับที่นักเตะดีดีปฏิเสธที่จะมาเล่นในโอลแทรฟอร์ด มันเป็นเพราะสไตล์การเล่นของแมนยูหรือปล่าว ทำให้เพลเมคเกอร์หลายๆคนไม่อยากมาเล่นให้กับผี ลองไปอ่านจากเนื้อข่าวกันก่อนครับ

จากหัวข้อข่าว"ผีแห้ว เอริคเซน ไม่ย้ายหนีอาแจกซ์"


มาร์ติน ชูตส์ เอเยนต์ส่วนตัวของ คริสเตียน เอริคเซน กองกลางดาวโรจน์ของ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ออกมายืนยันว่านักเตะในความดูแลของตน ต้องการที่จะปักหลักค้าแข้งกับทีมดังแห่งลีกฮอลแลนด์ไปจนกว่าสัญญาฉบับปัจจุบันจะหมดลง

ห้องเครื่องวัย 20 ปี ทำผลงานโดดเด่นในระดับต้นสังกัด และทีมชาติเดนมาร์ก ซึ่งผลจากฟอร์มอันยอดเยี่ยม ทำให้เจ้าตัวตกเป็นที่หมายปองของบรรดาทีมยักษ์จากยุโรปมากมาย อาทิ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ "หมาป่า" โรมา แห่งกัลโช เซเรีย อา

อย่างไรก็ตาม มาร์ติน ชูตส์ เอเยนต์ส่วนตัวของ เอริคเซน เผยว่าเจ้าตัวปฎิเสธที่จะย้ายไปเล่นให้กับทีมจากเกาะอังกฤษ หรือ อิตาลี เพราะตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับอาแจกซ์ ต่อไปจนกว่าสัญญาจะหมดลงในปี 2014 โดยกล่าวว่า "มีทีมมากมายที่ให้ความสนใจคริสเตียน และผมต้องบอกว่าโรมา ก็สนใจในเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งผมเชื่อว่ามันอาจมีความเป็นไปได้"

"แม้ว่าบางทีอนาคต อาจเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดได้ แต่อย่างไรก็ตาม คริสเตียน ก็ยืนยันแล้วว่าเขายังมีสัญญาอยู่กับอาแจกซ์จนปี 2014 ซึ่งเราคงต้องมาดูกันหลังจากนั้น" ชูตส์ กล่าว

จากข่าวแม้ว่าเราไม่ได้รู้เหตุผลอะไรที่แน่ชัดนะครับว่าเพลเมคเกอร์รายนี้ปฏิเสธแมนยูเพราะว่ารักต้นสังกัดจริงๆหรือไม่ แต่ว่าถ้าเรามองดูความน่าจะเป็นแล้วผมว่า เพลเมคเกอร์รายนี้น่าจะมองสไตล์การเล่นของแมนยูมากกว่าในการตัดสินใจ ประกอบกับการเล่นให้กับต้นสังกัดเองในเวลานี้ก็ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ดังนั้นหากต้องเปลี่ยนทีมมาเล่นในสไตล์ที่ตนเองอาจเข้าไม่ได้ก็อาจจะเป็นการทำลายตัวเองมากกว่า ผมคิดว่าเพลเมคเกอร์เดนมาร์ครายนี้จะคิดเช่นนั้น

แน่นอนครับข่าวนี้ถ้าเป็นเรื่องจริงถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมากๆที่เกิดขึ้นกับการหานักเตะมาเสริมแมนยู ซึ่งแน่นอนแมนยูต้องการความดุดันเพิ่มในแนวรุก ซึ่งตอนนี้เป็นปัญหามายาวนานครับ ที่ไม่มีผู้เล่นที่จะทะลุทะลวงแนวรับของฝ่ายตรงข้ามได้ เรียกว่าแฟนผีแดงต่างภาวนาให้ปีกตัวจี๊ดลีลาเหมือนโด้คนนี้สนใจแมนยูเถิด สถานการณ์จะเป็นอย่างไร ลองไปอ่านข่าวกันดูก่อนครับ

จากหัวข้อข่าว"ผีเหล่แข้ง โตริโน ลีลาก็อป โด้"



"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจประจำเวที พรีเมียร์ชิป เป็นข่าวกำลังจับตามอง อเลน สเตวาโนวิช แนวรุก โตริโน แห่งศึก กัลโช เซเรีย บี อิตาลี จากการตีข่าวของ "เดลี เมล" (DAILY MAIL) สื่อดังประจำเกาะอังกฤษ

สเตวาโนวิช นักเตะเชื้อสายเซอร์เบียที่เกิดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้รับการยกย่องว่ามีลีลาการเล่นคล้าย คริสเตียโน โรนัลโด ปีกค่าตัวแพงที่สุดในโลกของ รีล มาดริด และนอกจาก แมนฯยูไนเต็ด ยังได้รับการจับตามองบ่อยครั้งจาก อาร์เซนอล

สำหรับ โตริโน และ อินเตอร์ มิลาน เป็นเจ้าของร่วมในตัว สเตวาโนวิช โดยคาดว่าแข้งวัย 21 ปีจะมีค่าตัวอยู่ที่ราว 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 300 ล้านบาท) "กระทิงหิน" ก็น่าจะยอมขายกรรมสิทธิ์ แต่รายงานระบุมีถึง 6 ทีมที่อยากได้ตัวนักเตะทีมชาติเซอร์เบียชุดยู 21 ปี

พร้อมกันนี้ แมนฯยู ได้ส่ง มาร์ติน เฟอร์กูสัน แมวมองประจำถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ดูฟอร์ม ติโต แบ็กขวาวัย 26 ปีของ ราโย บาเยกาโน ที่ลงเล่นเกม ลา ลีกา สเปน ที่แพ้คารังต่อ รีล มาดริด 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

จากข่าวแน่นอนว่าเจ้าโด้ 2 คนนี้เนื้อหอมมากทีเดียวมีสโมสรสนใจมากมาย ตอนนี้คงอยู่ที่ตัวนักเตะเองแล้วละครับว่าจะพิจารณาว่าจะเลือกอยู่กับทีมแบบไหน จะเลือกสไตล์การเล่นที่เข้ากับตนเอง หรือว่าจะเลือกทีมที่จะมีโอกาสประสบความสำเร็จในถ้วยใหญ่ๆ เรียกว่าแมนยูก็ไม่ได้มีอะไรดีกว่าทีมใหญ่ๆทีมอื่นมากมายนักเลยครับ คงต้องภาวนาเอาใจช่วยได้เท่านั้นครับ

จริงๆแล้วข่าวนี้ก็ไม่ได้พิเศษอะไรหรอกนะครับ แต่ว่าบังเอิญหลุยซาฮาได้บอกอะไรเราบางอย่างซึ่งทำให้รู้สึกถึงตัวตนของป๋าเฟอร์กี้ได้อย่างชัดเจนครับว่ามุ่งมั่นและมืออาชีพมากน้อยเพียงใด และซาฮายังบรรยายสั้นๆให้เราได้เห็นภาพ และบรรยากาศในห้องพักนักเตะอย่างชัดเจเลยครับ ลองอ่านข่าวกันก่อนเลยครับ

จากหัวข้อข่าว"ซาฮา แฉ ป๋า ยิง 2 ตุงยังโดนไดร์เป่าผม"


หลุยส์ ซาฮา กองหน้าชาวฝรั่งเศส ที่เคยล่าตาข่ายให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแฉ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตเจ้านายเก่า เพราะครั้งหนึ่งเคยยิง 2 ประตูเกม พรีเมียร์ชิป อังกฤษ กับ เอฟเวอร์ตัน แต่ยังถูก "ไดร์เป่าผม" พ่นใส่หน้าด่ายับเยินช่วงพักครึ่งเวลา จากการตีข่าวของ "เดอะ ซัน" แท็บลอยด์หัวดังเมืองผู้ดี

ซาฮา ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มาอยู่กับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบสองเปิดทำการเดือนมกราคมที่ผ่านมา ล่าสุดยิงประตูเกมที่บุกไปพ่าย อาร์เซนอล 2-5 ศึก พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ ผลงานส่วนตัวถือว่าน่าประทับใจยิงไปแล้ว 3 ประตูจาก 3 นัด

ซาฮา ย้อนอดีตให้ฟังเมื่อครั้งย้ายจาก ฟูแลม มาเล่นในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ระหว่างปี 2004-08 เกม พรีเมียร์ชิป ปี 2004 ที่ กูดิสัน ปาร์ค เป็นคนยิง 2 ประตูให้ทีมนำ 3-0 หมดครึ่งแรก แต่ยังถูก เซอร์ อเล็กซ์ นายใหญ่ "ผีแดง" ด่ายับ หลังจากนั้น เอฟเวอร์ตัน ตีเสมอ 3-3 โชคดีเป็น รุด ฟาน นิสเตลรอย หอกดัตช์ซัดชัยนาที 89 เฉือนชนะไป 4-3

หอกวัย 34 ปีกล่าวว่า "ตอนเดินกลับห้องแต่งตัว ผมรู้สึกภาคภูมิใจมากก่อนจะนั่งลง ทว่าก็ต้องตกใจด้วยอารมณ์รุนแรงของ เซอร์ อเล็กซ์ แน่นอนน่าประหลาดใจมาก ตอนนั้นเขาเหมือนคนบ้าและผมก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าทำไม เพราะเรานำแค่ 3 ประตูทั้งที่ควรปิดเกมด้วยการยิงมากกว่านี้"

"เซอร์ อเล็กซ์ หงุดหงิดมากเกี่ยวกับการพลาดโอกาสที่น่าจะยิงได้มากกว่านี้ แน่นอนช่วง 45 นาทีหลังผมซึ้งเลยเพราะว่า เอฟเวอร์ตัน ฟื้นจากหลุมตีเสมอ 3-3 ทว่าก็ต้องขอบคุณ รุด ฟาน นิสเตลรอย คู่ขาของผมในแดนหน้าที่ช่วยให้รอดพ้นจากฝันร้ายเพราะเป็นคนยิงประตูชัยท้ายเกม" อดีตหอกทีมชาติฝรั่งเศส ทิ้งท้าย

แน่นอนว่านักเตะกับผู้จัดการทีมย่อมมีอะไรที่ผูกพันและเป็นความทรงจำถึงกันอยู่ที่ว่าความทรงจำนั้นจะดีหรือว่าไม่ดี สำหรับเรื่องที่ซาฮาเล่านั้น อาจจะฟังดูเครียดแต่ผมว่านั่นก็เป็นแค่ในเรื่องการทำงานอย่ามืออาชีพเท่านั้น ซึ่งทำให้เราได้เห็นมุมมองว่าสกอร์สวยนั้นไม่ได้เพียงพอสำหรับมืออาชีพแต่ความการันตี ความแน่นอนมากกว่าที่เป็นเรื่องสำคัญให้ทีมประสบความสำเร็จได้

สวัสดีครับวันนี้ก็มีข่าวของสโคล กองกลางแมนยูและอดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษมาให้อ่านกัน แน่นอนครับเรดเดวิลทุกคนรู้อยู่แก่ใจดีว่า 12 เกมส์ที่เหลือแมนยูต้องชนะสถานเดียวเท่านั้นจริงๆจึงจะมีโอกาสเป็นแชมป์ได้ เช่นเดียวกันกับพอล สโคลที่ออกมากล่าวดังรายงานข่าวนี้เช่นกัน ลองไปอ่านข่าวกันก่อนครับ

จากหัวข้อข่าว "สโคลส์ ย้ำผีต้องชนะทุกเกมเพื่อแชมป์"



พอล สโคลส์ มิดฟิลด์จอมเก๋า "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบุต้นสังกัดจำเป็นต้องชนะเกมพรีเมียร์ชิปที่เหลือทั้ง 12 นัด เพื่อโค่น "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี คู่อริร่วมเมือง ป้องกันแชมป์ลีกเมืองผู้ดีในฤดูกาลนี้

เกมลีกนัดล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบพลาดท่าเสมอกับ นอริช ซิตี แต่โชคดีที่ได้ ไรอัน กิ๊กส์ ปีกมากประสบการณ์อีกคนช่วยยิงประตูชัยในนาทีสุดท้ายจนเฉือนเอาชนะ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" 2-1 เก็บสามคะแนนเต็มกลับมาออกมาได้ พร้อมรักษาส่วนต่างของคะแนนกับ แมนฯ ซิตี จ่าฝูงที่ 2 คะแนนต่อไป

ด้าน สโคลส์ ซึ่งเป็นคนยิงประตูแรกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำที่สนามคาร์โรว์ โรด ก่อนถูก แกรนท์ โฮลท์ ตีเสมอให้เจ้าถิ่น กล่าวว่า "ผลเสมอในเกมต่างๆไม่มีประโยชน์อะไร สามคะแนนทำให้เกิดความแตกต่างกว่า ดังนั้นเราต้องให้ทุกคนมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายนั้น และผมเชื่อว่าเราจะทำแบบนั้นอีกครั้งแน่นอน"

"เราตระหนักดีว่าเราอาจต้องชนะทุกเกมเพื่อที่คว้าแชมป์ลีก แต่ทุกคนก็พร้อมและเตรียมตัวทำเช่นนั้น ซึ่งหวังจะว่าสามารถทำได้" อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษกล่าว

ผมเองในฐานะแฟนแมนยูเองก็เข้าใจดีครับว่าเกมส์ทุกเกมส์ที่เหลือในฤดูกาลนี้สำคัญมากจริงๆ โดยเฉพาะแมนยูเองที่อยู่ในฐานะฝ่ายตามจะพลาดไม่ได้เลย นั่นเป็นสิ่งที่กดดันแมนยูเองพอสมควรเลย ขนะที่แมนซิตี้ยังมีโอกาสพลาดได้ คือ เสมอ พวกเขาก็ยังไม่เสียหายอะไรมากนัก นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้แมนซิตี้ พอจะอุ่นใจได้กว่าแมนยู

อย่างไรก็ตามตอนนี้มองแมนยูอย่างเดียวก็พอครับ ขอเพียงให้ชนะไว้ทุกนัดๆ ก็พอ วัดกันดูกันนัดต่อนัดไปเลยครับ  อยากบอกว่าตอนนี้ฟอร์มแมนยูไม่ได้เหมาะที่จะเป็นแชมป์เลยครับ ตอนนี้ขนาดทีมนอนิชยังเกือบเอาตัวออกมาไม่รอด แล้วยิ่งถ้าหากเจอทีมอย่างเชลซี ลิเวอพูลช่วง 12 เกมส์ที่เหลือนี้ผมว่าโอกาสยิ่งแย่ไปใหญ่ในการที่จะเก็บ 3 คะแนนได้ทุกนัดครับ ถ้าฟอร์มการเล่นยังเป็นแบบนี้

หลังจากที่แมนยูเฉือนนอริชแบบสุดเสียวในหยดสุดท้ายของเกมส์การแข่งขัน ซึ่งนัดนี้เจ้าหมูรูนี่ของเราไม่ได้ลงขวิดตาข่ายเพราะอาการคออักเสบอะไรก็ว่ากันไป แต่ที่แน่ๆ รูนี่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับเวปของฟีฟ่าได้อย่างแข็งขันว่าจะตั้งใจพาทีมแมนยูคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ให้ได้รายละเอียดจะเป็นอย่างไรลองไปอ่านข่าวกันก่อนเลยครับ

จากหัวข้อข่าว "หมูตกมัน!รูนกร้าวขอยิงแหลกพาผีแซงเรือเถลิงแชมป์ลีก"

เวยน์ รูนี่ย์กองหน้าสุกรโลกันตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหวังว่าเขาจะสามารถรักษาฟอร์มการยิงประตูแบบนี้ไปได้อย่างต่อเนื่องและช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ให้ได้

รูนี่ย์ที่ถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษนัดอุ่นเครื่องกับฮอลแลนด์ไปเรียบร้อยแล้วและเพิ่งพลาดการลงเล่นให้กับ"ปีศาจแดง"ในนัดล่าสุดหลังมีอาการคออักเสบซึ่งเจ้าตัวก็หวังว่าจะสามารถรีบกลับมาช่วยสโมสรในการขับเคี่ยวแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้โดยเร็วที่สุด

"โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่านี่เป็นฤดูกาลที่ผมยิงได้ค่อนข้างเยอะนะ ผมยิงไปแล้ว 19 ประตูและผมก็หวังว่าจะซัดได้อีกเยอะๆตลอดช่วงที่เหลือของซีซั่น" รูนี่กล่าวผ่านเว็บไซต์ของฟีฟ่า

"เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีในลีก เราตามหลังอยู่ 2 แต้มและมันก็ยังเหลือเกมให้เล่นอีกหลายเกม เรามั่นใจว่าสามารถทำได้แน่"

"เราต้องการจะป้องกันแชมป์ลีกให้ได้รวมไปถึงการคว้าถ้วยยูโรป้า ลีกด้วย นี่เป็น 2 รายการที่เรามีลุ้นตอนนี้และเราก็ต้องการคว้ามันให้หมด"

แน่นอนครับว่าตอนนี้เหลือแค่สองถ้วยเท่านั้นที่ยังได้ลุ้น ผมในฐานะแฟนแมนยูก็อยากจะให้แมนยูปีนี้คว้าให้ได้สักแชมป์นึงครับ ผมกลัวอย่างเดียวคือ กลัวแมนยูจะชวดทั้งสองถ้วยมากกว่าอะครับ เหมือนอย่างฤดูกาลที่แล้วที่แมนยูมีลุ้นถึง 4 ถ้วย แต่สุดท้ายก็ได้มาแค่สองถ้วย ส่วนปีนี้ที่เหลือสองถ้วยก็เรียกว่าสถานการณ์ไม่ได้แน่นอนอะไรประกอบกับฟอร์มการเล่นของแมนยูโดยรวมในตอนนี้ก็ลุ่มๆดอนๆ กองกลางขาดความสร้างสรรค์ ดุดัน หลังกับประตูก็มีโอกาสพลาดได้ตลอด ส่วนหน้าคงยังต้องรอว่าให้บอลขึ้นไปถึงเยอะๆก่อน

เอาเป็นว่ายังไงผมคิดว่าแมนยูควรเทมาทางถ้วยพรีเมียร์ลีกมากกว่ายูโรปา เพราะว่าการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 น่าจะเป็นอะไรที่ทำให้แฟนแมนยูได้อิ่มเอิบใจมากกว่า ส่วนเหตุผลนั้นเราสาวกผีแดงด้วยกันคงจะรู้และทราบกันดีว่าทำไมถึงต้อง 20 สมัย ยังไงก็ลุ้นถ้วยพรีเมียร์ลีกนี่แหละครับแมนยูเอา 20 มาให้ได้

ผลบอลวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2555 นอริช 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสกอร์ที่ดูก็รู้ว่าหืดจับอยู่แล้ว แล้วเมื่อมองเวลาที่ได้ประตูที่สองก็ต้องบอกว่าเหนื่อยแทบจะคลานเลยทีเดียวสำหรับแมนยูนัดนี้ที่เอา 3 คะแนนออกมาได้


แม้ว่าสุดท้ายแล้วแมนยูจะเดินออกมาจากบ้านนอริชได้โดยเก็บสามคะแนนไม่ตกหล่นแต่ว่าเราก็ได้เห็นแล้วว่าเกมส์นัดนี้แมนยูทำให้แฟนบอลเบื่อแค่ไหน เราจะเห็นได้ชัดว่าบอลจากหลังขึ้นมากลางได้ช้ามาก และจากกลางขึ้นไปหน้านั้นแทบจะนับครั้งได้มันเป็นเพราะอะไร

เพราะว่าแมนยูไม่ได้มีผู้เล่นที่จะพยามพาบอลขึ้นหน้า หรือว่าพยามทะลุทะลวงโดยใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลย ทั้งเกมส์เราจะเห็นได้จังหวะเดียวในครึ่งหลังคือจังหวะที่ โจนส์ที่นัดนี้ได้เล่นเป็นตัวจริงทางแบคขวา พยามเลี้ยงตัดเข้ากลาง ก่อนจะเสียบอลแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรนัก ซึ่งถ้าหากว่าทั้งเกมส์แมนยูพยามทำแบบโจนส์ผมว่ากองหลังของนอริชจะปั่นป่วนและยุ่งเหยิงมากมายกว่านี้แน่

ส่วนเวลเบคผมขอชื่นชมอีกคนนึงซึ่งนัดนี้เขาพยามที่จะเอาบอลขึ้นหน้าในหลายๆจังหวะซึ่งฟิดกับเจ้าถั่วน้อยซึ่งไม่เคยเห็นเลยที่เค้าจะหาจังหวะกลับตัวแล้วลากบอลจี้ใส่กองหลัง จนครึ่งหลังได้ไม่นานเจ้าถั่วน้อยก็โดนเปลี่ยนตัวออกตามคาด

สุดท้ายเกมส์นัดนี้มันเหมือนละครฉากใหญ่ให้กับ ไรอั้น กิ้กส์ เมื่อลูกเปิดทางฝั่งซ้ายเลยมาทางเสาสองให้กิ้กส์ได้ใช้ข้างเท้าด้านนอกเท้าซ้ายเขี่ยบอลเข้าไปอย่างถวายพานสุดๆ รู้ทันทีว่าเกมส์นี้เป็นของแมนยูและสามคะแนนอย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัยด้วยเวลาที่ทดมาแล้วจนครบ

แม้ว่ากรรมการจะทดไปให้จนเกือบ 5 นาทีนอริชก็กลับมาไม่ได้จริงๆ สุดท้ายเกมส์นี้ก็พูดถึงแต่กิ้กส์ที่ฉลองประตูชัยให้แมนยูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บและเป็นการลงเตะนัดที่ 900 ให้แมนยูด้วยนั่นเอง

ไม่น่าเชื่อครับว่าจะได้ยินข่าวนี้จากแมนยู ซึ่งนานมากแล้วครับที่แมนยูต้องการกองกลางมาเสริมทีม ส่วนกองกลางที่แมนยูสนใจคนนี้เป็นใคร ทีมชาติอะไร อยู่สโมสรอะไร ฟอร์มการเล่นร้อนแรงแค่ไหน เราไปอ่านข่าวก่อนเลยครับ

"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นข่าวแอบเหล่ ฆาบี การ์เซีย กองกลางตัวรับ "เหยี่ยวลิสบอน" เบนฟิกา เช่นเดียวกับที่เล็งคว้า เจมส์ โรดริเกซ ปีกตัวเก่ง เอฟซี ปอร์โต มาเสริมทัพช่วงหน้าร้อนนี้

กำลังขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศแข่งกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี แต่การที่ แมนฯ ยูไนเต็ด หลุดวงโคจรมาเล่นในยูโรปา ลีก ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือจอมเก๋าชาวสกอตติชเตรียมปฏิรูปทีม ด้วยการเสริมผู้เล่นเก่งๆ มาสู่รั้วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซัมเมอร์นี้ เพื่อกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง



โดย "เดลีย์ เมล์" สื่อดังของอังกฤษรายงานว่า ท่านเซอร์ ประทับใจฟอร์ม ฆาบี การ์เซีย ที่ค้าแข้งกับ เบนฟิกา และเคยเผชิญแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้วในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลยุโรปถ้วยใบใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของสื่อในโปรตุกีส เชื่อว่า "ปิศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ก็อยากได้ตัวมิดฟิลด์ชาวสเปนวัย 25 ปี ไปตัดเกมในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เช่นกัน ทำให้ค่าตัวอาจพุ่งสูงถึง 17 ล้านปอนด์ (ประมาณ 850 ล้านบาท) เลยทีเดียว


นอกจากนี้ "โอ โจโก" สื่อดังแดนฝอยทองประโคมกระแสอีกว่า เฟอร์กี มีการส่งแมวมองประจำสโมสรไปยังสนามเอติฮัด สเตเดียม เพื่อชมฝีเท้า เจมส์ โรดริเกซ ที่เล่นให้ เอฟซี ปอร์โต และกำลังได้รับการจับตามองจาก "ม้าลาย" ยูเวนตุส ในเซเรีย อา เช่นกัน ซึ่งนัดดังกล่าวต้นสังกัดของปีกโคลัมเบียนวัย 20 ปี โดน แมนฯ ซิตี ถล่มยับ 4-0 ทำให้ทีมดังของโปรตุเกส หยุดเส้นทางในยูโรปา ลีก ไว้เพียงแค่รอบ 32 ทีมสุดท้าย เมื่อผลสองนัดปราชัยยับ 1-6

เอาละครับเรามาลองมองดูผู้เล่นที่แมนยูมองไว้กันเรามาเริ่มจาก ฆาบี การ์เซีย ของเบนฟิกากันก่อนเลยครับ เมื่อดูจากตำแหน่งการเล่นแล้วแน่นอนมาเสริมแนวรับและเชื่อมแนวรุกให้ดุดันขึ้น ซึ่งผมเห็นด้วยว่ากำแหน่งนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งเท่าที่เราเห็นแมนยูช่วงหลังที่ผ่านมาบอลจะตายอยู่ที่มิดฟิลตัวรับนี้จริงๆ คือบอลจะไม่ขึ้นหน้า ก็อยู่ที่ว่า ฆาบี การ์เซีย คนนี้ฟอร์มการเล่นนั้นเป็นอย่างไร จะมาตันๆเหมือนคาริคหรือปล่าวก็ต้องลองไปหาคลิปการเล่นของ ฆาบี การ์เซีย ดูกันละครับ

ต่อมาเป็นปีกดาวรุ่ง เจมส์ โรดริเกซ ที่เล่นให้ เอฟซี ปอร์โต อายุน่าสนใจมากที่ 20 ปีเท่านั้นเอง เห็นว่าฟอร์มของ เจมส์ โรดริเกซ ที่เล่นให้ เอฟซี ปอร์โต นั้นค่อนข้างร้อนแรงจัดจ้าน ผมเองก็อยากจะเห็นนักเตะคนนี้มาจัดจ้านร้อนแรงให้แมนยูเหมือนกันครับ เพราะเห็นว่าอายุยังน้อยอยู่ด้วย หากแมนยูมีปีกที่อล้าเล่นอีกสักคนนึงผมว่าก็น่าจะเวิร์คครับ แต่ก็ต้องอยู่ที่ฟอร์มการเล่นจริงๆด้วยครับ

คงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า ป๋า จะได้หรือไม่ได้นักเตะสองคนนี้กันแน่ แต่ความเห็นส่วนตัวผมรู้สึกว่าสองคนนี้ยังไม่ดีพอที่จะมาเสริมแมนยูในช่วงเวลานี้ครับ

เอาละครับป๋าเราออกมาแสดงความรับผิดชอบแทนลูกทีม ก็สมเป็นป๋าครับ อืมผมเองก็ไม่รู้จะแสดงความคิดเห็นอะไรให้มันมากมายนักนะครับสำหรับความพ่ายแพ้นัดนี้ซึ่ง แน่นอนว่าแมนยูนั้นยังได้เดินหน้าต่อไปแต่ว่ามันจะดีหรือว่าร้ายมากกว่าที่ทีมต้องเสียความมั่นใจด้วยความพ่ายแพ้บ่อยๆ อะไรที่ต้องแก้เราทุกคนรู้ดี อยู่ที่ว่าจะแก้เมื่อไหร่ ไงลองไปอ่านสกู๊ปข่าวนี้กันก่อนครับ


จากข่าว "โครตแมน!ป๋าบอกผิดเองจัดทัพเสี่ยงผีเลยพ่าย"

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันบรมกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแอ่นอกรับว่าเป็นความผิดของตนที่จัดทีมด้วยแผงแบ็กโฟร์ที่มีประสบการณ์น้อยเลยเป็นเหตุให้แพ้คาบ้านต่ออาหยักซ์ อัมสเตอร์ดัม 2-1

"ผมต้องบอกว่าผมยอมรับผิดเอง ผมต้องรับผิดชอบในการจัดทีมและคืนนี้ผมเลือกผู้เล่นดาวรุ่งลงไปประจำการแผงหลังมากไป มันเป็นปัญหาในแง่ของประสบการณ์ มันเป็นความเสี่ยงที่ผมก่อให้เกิดขึ้น"ป๋ากล่าว

"อาหยักซ์เป็นทีมที่ครองบอลได้ดี แต่ประตูแรกของพวกเขา ผมมองว่ามันเป็นลูกแฮนด์บอลในจังหวะก่อนยิง แม้พวกเขาครองบอลได้มากแต่พวกเขาก็ดูไม่เหมือนจะทำประตูได้"

"ประตูที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขามีความมั่นใจ ขณะที่เรามีโอกาสจบสกอร์แค่หนเดียวในครึ่งหลัง ผมคิดว่าเราเล่นได้แย่มากๆในครึ่งหลัง"

จริงๆถ้าหากว่าแมนยูจบเกมส์นี้ด้วยเสมอหรือว่าไม่แพ้ไว้ก่อนก็จะดูเหมือนกับว่าป๋านั้นเก๋าเกมส์ พักตัวหลักเอาไว้ใช้งาน บริหารจัดการผู้เล่นได้อย่างคุ้มค่า แต่ว่าผลไม่ได้เป็นอย่างที่คาด แต่ยังโชคดีตรงที่ว่าแพ้แค่ลูกเดียวถ้าหากว่าโดนเข้าไปอีกลูกนึงนี่จะเป็นยังไงคงไม่ต้องอธิบายกันครับ

พอดีเห็นข่าวที่ป๋าออกมาชูโรงว่ากิ๊กนั้นเป็นสุดยอดแข้งของพรีเมียร์ บางทีก็อาจจะเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป แต่ก็ไม่ได้ไป่าอะไรป๋านะครับเพราะว่าต่างคนก็ต่างมีสไตล์ ต่างคนก็ต่างมีความชอบที่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าใครจะเห็นอะไรเท่านั้นเอง ลองไปดูข่าวกันก่อนเลยครับ

จากหัวข้อข่าว "ป๋าชี้ขนดกสุดยอดแข้งพรีเมียร์เท่าที่เคยมีมา"



เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันรู้ทันกลัวแฟนบอล SS เถียงกันชี้ว่าในความคิดเห็นส่วนตัวของเขาแล้วไรอัน กิ๊กส์คือนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่พรีเมียร์ ลีกเคยมีมา

ไรอัน กิ๊กส์เป็นตำนานที่ยังลงสนามให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโดยเขากำลังจะทำสถิติลงเล่นเป็นนัดที่ 900 หากได้ลงเล่นในเกมต่อไป ซึ่งย้อนไปเมื่อปี 2008 ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับเชลซี ตอนนั้นกิ๊กส์ทำลายสถิติการลงสนามมากที่สุดของเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน

"ผมอยากจะขอพูดจากมุมมองส่วนตัวของผม"

"ผมไม่ขอบอกนะว่าทุกๆคนจะต้องเห็นด้วยกับผม เพราะทุกๆคนต่างมีนักเตะในดวงใจ แต่การลงเล่นในพรีเมียร์ ลีกนานเท่ากับที่เขาทำได้ ผมไม่คิดว่าจะมีนักเตะคนอื่นๆทำได้อีกแล้ว"

"มันยอดเยี่ยมเหลือเกิน หากนึกย้อนกลับไปในค่ำคืนที่มอสโกว์ (นัดชิง UCL ปี 2008)"

"คุณกำลังพูดถึงว่าเขากำลังจะลงสนามต่อไปมากกว่าอีก 100 เกม เขาเหนือคำบรรยายและก็ก้าวข้ามอายุของเขามาตลอด ในฤดูกาลนี้เขายังคงเป็นเหมือนเดิมกับในเกมที่มอสโกว์"

"ในวันนี้มันเป็นกิ๊กส์ที่แตกต่างออกไป เขาเปลี่ยนตำแหน่งของเขาในหลายๆครั้งมาเล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง"

"เขายังคงมีความว่องไวและความสมดุลที่ยอดเยี่ยม แต่เขาไม่รวดเร็วเหมือนกับเมื่อ 10 ปีก่อนอีกแล้ว"

บางทีก็งงป๋าเหมือนกันนะครับบอกว่าว่องไวแต่ไม่รวดเร็วเหมือนเก่า ก็ไม่เป็นไรครับตอนนี้ผมคงอยากได้ันักเตะสไตล์ที่เป็นแนวรุกเลี้ยงทะลุทะลวงมากกว่าก็เลยแซวป๋าตลอดช่วงนี้ ก็ยอมรับครับว่ากิ๊กนั้นอยู่กับแมนยูมานานมาก นานพอๆกับป๋าเลยก็ว่าได้ รุ่นๆแบ๊คแฮ่ม สโค ปีเตอร์ชไมเคิลที่เลิกเล่นไปแล้ว

ผมจำได้ดีครับกิ๊กเลี้ยงบอลตั้งแต่ครึ่งสนาม เลี้ยงหลบกองหลังสองสามคนของอาเซน่อลเข้าไปยิงเสยคานผ่านเดวิดซีแมนเข้าไปแบบสะใจ ขณะที่แมนยูเหลือผู้เล่นแค่สิบคน แถมในเกมส์ปีเตอร์ชไมเคิลเซฟจุดโทษได้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นเกมส์ที่ระทึกที่สุดเกมส์หนึ่งของแมนยูก็ว่าได้ครับ

อยากบอกว่ากิ๊ก คุณแน่มาก

แน่นอนว่าผมดูแมนยูมาตั้งแต่เด็กและก็ชอบแมนยูมาตั้งแต่ตอนนั้น ป๋าเซอร์ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของแมนยูไปแล้วก็ว่าได้ผมว่า แล้วถ้าหากว่าวันนึงป๋าไม่อยู่กับแมนยูผมว่าแฟนบอลแมนยูทั่วโลกน้ำตาได้ไหลกันแน่ๆ แต่ข่าวนี้จะเป็นอย่างไรเราลองไปอ่านกันดูก่อนนะครับผม


เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือชาวสกอตแลนด์แย้มอาจวางมือภายใน 2-3 ปีข้างหน้า หากยังทำทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเผยว่าเคยทิ้งโอกาสเซ็นสัญญากับ โจ ฮาร์ท นายทวารจอมหนึบทีมชาติอังกฤษด้วยค่าตัวเพียง 100,000 ปอนด์ (ประมาณ 5 ล้านบาท)

“เฟอร์กี” เคยบอกว่าจะยุติบทบาทการเป็นผู้จัดการทีมเมื่อ 10 ปีที่แล้วก่อนเปลี่ยนใจในเวลาต่อมา ซึ่งหลังจากนั้นก็พา “ปิศาจแดง” กวาดแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีก 5 สมัย นอกเหนือจากที่เคยทำได้ก่อนหน้านี้ 7 สมัย และยังเถลิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก สมัยที่ 2 รวมทั้งได้แชมป์เอฟเอ คัพ 1 ครั้ง กับคาร์ลิง คัพ อีก 3 ครั้งด้วย

ล่าสุด ยอดโค้ชวัย 70 ปีออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องอนาคตของตัวเองผ่านทางสถานีวิทยุบีบีซี เรดิโอ ไฟว์ ไลฟ์ ว่า “คุณคงอยากอำลาวงการในขณะที่ยังประสบความสำเร็จ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะทำหน้าที่นี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่ถ้าสุขภาพยังแข็งแรงดีอยู่ ผมก็ไม่คิดว่าการทำงานในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะเป็นปัญหาสำหรับผม วันหนึ่งผมคงจะไม่ได้ทำงานนี้อีก แต่ตอนนี้ผมยังมีไฟอยู่ และหลังจากเลิกไปแล้วผมอาจจะไปทำบทบาทอื่นให้กับ ยูไนเต็ด แทน”

ขณะเดียวกัน เฟอร์กี ยังเผยอีกว่าเคยพลาดการเซ็นสัญญาคว้าตัว โจ ฮาร์ท มาร่วมทีมในราคาแสนถูก ซึ่งเวลานี้ผู้รักษาประตูวัย 24 ปีได้กลายเป็นมือหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี คู่ปรับร่วมเมืองไปแล้ว “ผมเคยมีโอกาสซื้อตัว โจ ฮาร์ท ในราคา 100,000 ปอนด์ ซึ่งนั่นถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่เลยทีเดียว ผมไม่แปลกใจว่าเขาจะเป็นมือหนึ่งของทีมชาติอังกฤษไปอีกนานนับสิบปี”

ครับ แน่นอนว่าป๋าเปรยแบบนี้ต้องมีความรู้สึกในใจอยู่พอสมควรเลยเหมือนกันที่จะวางมือ เพราะป๋าก็ 70 เข้าไปแล้ว แต่ผมเองยังเชื่อครับว่าป๋าจะอยู่กับเราต่อไปอีกสักพักอย่างแน่นอน ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าป๋าอยากจะได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนสลีกอีกสักครั้งก่อนไปนะผมรู้สึกอย่างนั้น เลขสองมันรู้สึกน้อยไป

ยังไงก็ตามฤดูกาลนี้แมนยูมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกเยอะครับ บางทีผมก็ไม่เข้าใจป๋าเหมือนกันว่าป๋ามองและเลือกผู้เล่นอย่างไร ทำไมไม่หาตัวเก๋าพร้อมใช้มาเล่นให้ทีมบ้าง เพราะเหมือนจะมีแต่ผู้เล่นปั้นเองเต็มทีมไปหมด หาเพลเมคเกอร์ที่จะเป็นหัวสมองของทีมแมนยูสักคนนึงไม่เคยมีจริงๆสำหรับแมนยู ผู้เล่นที่จะเป็นเพลเมคเกอร์ที่ใกล้เคียงก็มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ขานั้นก็ไปเถลิงอำนาจเรียบร้อย เฮ้อ..ถ้าผมเล่นให้แมนยูแล้วเก่งดัง อยากรู้เหมือนกันว่าผมจะไปทีมอื่นไหมนะ....

จากข่าวที่ว่า กระพือผีทุ่ม 20 ล้านป.สอยหลังค้างคาว เราลองไปอ่านเนื้อข่าวกันก่อนนะครับว่าแมนยูเล็งใครเอาไว้บ้าง

"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดนสื่อกระพือข่าวพร้อมทุ่มเงิน 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1 พันล้านบาท) สำหรับการไล่ล่า อาดิล รามี เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวแกร่ง "ค้าวคาว" บาเลนเซีย มาร่วมงานกันช่วงหน้าร้อนนี้

บาเลนเซีย สโมสรชั้นนำในลา ลีกา สเปน ไปดึงตัว อาดิล รามี มาจาก ลีลล์ แห่งลีกเอิง ฝรั่งเศส ช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา และจากการทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทำให้ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 26 ปี เป็นทีมจับตามองของยักษ์ใหญ่ยุโรป ไม่ว่าจะเป็น "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา เพื่อนร่วมลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ หรือว่าจะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด

ล่าสุด "เดอะซัน" สื่อจอมซอกแซกเมืองผู้ดีประโคมข่าว เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือจอมเก๋าสกอตติชสั่งให้แมวมอง แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเช็คฟอร์ม รามี ที่บริททานเนีย สเตเดียม นัดที่ บาเลนเซีย บุกเฉือน "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี 1-0 ในศึกยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

โดยแหล่งข่าวเชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมทุบคลังนำเงิน 20 ล้านปอนด์ มาล่อใจบอร์ดบริหาร บาเลนเซีย ให้ยอมปล่อย รามี ออกมา อย่างไรก็ตาม "ผีแดง" ต้องเจอคู่แข่งสำคัญแน่นอน เมื่อมีรายงาน บาร์เซโลนา ก็สนใจปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส อยู่เช่นกัน

นอกจากนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่า แมนฯ ยูไนเต็ด แอบให้ความสนใจ จอร์จ ลอง นายทวารดาวรุ่งวัย 18 ปีของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในลีกวัน อย่างไรก็ดี แดนนี วิลสัน กุนซือ "ดาบคู่" ดีใจที่สามารถเก็บตัวผู้เล่นเจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว ฉายา "นิว โจ ฮาร์ท" ไว้ในถิ่นบรามอลล์ เลน ต่อไปด้วยการเซ็นสัญญากัน 4 ปี

จากข่าวนะครับ อาดิล รามี เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวแกร่ง "ค้าวคาว" บาเลนเซีย แมนยูมีหลังคือ จอนนี่อีแวน กับ ลิโอเฟอดินาน ซึ่งฟอร์มลุ่มๆดอนๆ แต่ยังไม่ถึงกับเสียหายอะไร การตัดสินใจที่จะซื้อกองหลังที่มีฟอร์มกำลังรุ่งมาใช้งานก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ทีมอุ่นใจได้ครับ แต่ก็ยังอยากให้เล็งผู้เล่นในแนวรุกที่เรียกว่าเพลเมกเกอร์สักคนมากกว่าครับในตอนนี้ อย่างที่เราอยากเห็นกันมานานมากๆแต่ไม่ได้เห็นสักที

ส่วนผู้รักษาประตูผมก็ยังเชื่อว่ายังไม่ใช่เรื่องที่เร่งด่วนอะไรมากนัก ตราบใดที่แมนยูสามารถเล่นได้ตามแทคติกและไม่มีอะไรโฉ่งฉ่างเกินไปมั่นใจว่าผู้รักษาประตูยังไงก็เอาอยู่ครับ แต่หากป๋าไม่มั่นใจการซื้อประตูดาวรุ่งฟอร์มดีมาใช้งานทันทีก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับทีมที่ต้องการความสำเร็จอย่างแมนยูครับ

อยากบอกว่าเราได้เห็นอะไรบ้างครับในเกมส์ที่แมนยูบุกไปรังอาแจ็ก ผมไม่เห็นอะไรชัดเจนนักนะครับสำหรับนัดนี้ ที่ไม่เห็นอะไรชัดเจนนั่นคือการเล่นหรือความสร้างสรรค์ในการเล่นครับ


แน่นอนว่าแมนยูชนะอย่างสวยหรู 2-0 ดูเป็นสกอร์ที่สบายๆไม่ต้องไปซีเรียสอะไรมาก แต่ต้องบอกว่าแมนยูยังไงก็ยังเป็นแมนยูครับ ไม่รู้ว่าเป็นสไตล์การทำทีมของป๋า เซ่อร์หรือปล่าวที่ปล่อยให้ทีมผีแดงเล่นกันเหยาะแหยะแบบนี้

ไม่ต้องบอกนะครับว่าเป็นทีมชุดเล็กเพราะว่า ทีมใหญ่ระดับนี้ไม่ว่าชุดใหญ่หรือชุดเล็กต้องมาทดแทนกันได้และทีมต้องไม่ด้อยสักยภาพลงไป สิ่งที่เราเห็นได้ชัดนั่นคือมิดฟิวตัวรับสองตัว ที่ทำหน้าที่พักบอลอย่างเดียวเท่านั้นโดยเฉพาะ ไมเคิลคาริค เขาทำหน้าที่เป็นเหมือนเรือเกลือของแมนยู เขาจะค่อยๆร่องเรือเกลือไปเรื่อยๆ ทั่วสนาม เพื่อคอยพักและจ่ายบอลให้กับกองหลังผีแดง

อยากบอกว่ามันไม่พอครับต้องสร้างสรรค์จังหวะที่จะเอาบอลขึ้นหน้าไปให้ได้มากกว่านี้ ถ้าหากว่ามีเพียงคนเดียวผมคงไม่คิดเท่าไหร่เพราะว่าต้องเล่นให้แน่นอนไม่เสียบอลในตำแหน่งนี้แต่ว่าเห็นมีสองคนเลยครับที่เล่นแบบนี้

บางครั้งดูบอลแมนยูบางนัดค่อนข้างจะน่าเบื่อนะครับ เพราะว่าอะไร เพราะว่าบอลมันไม่ขึ้นหน้านี่แหละครับ เพราะว่ามิดฟิวตัวรับของผีแดงไม่สร้างสรรค์เกมส์ ไม่กล้าเล่น หรือเล่นไม่ได้ผมไม่รู้นะครับ แต่ว่าป๋าเซ่อร์ควรจะเปลี่ยนหรือซื้อมิดฟิวตัวรับที่กล้าได้กล้าเสียเก๋าๆกว่านี้มา ผมเชื่อเลยครับ แมนยูจะดุดันกว่านี้สิบเท่า